ถั่วเหลืองอินทรีย์ สร้างรายได้กลุ่มกว่าหนึ่งล้านบาท

156

‘วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ’ ผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์ พืชความมั่นคงทางอาหารสร้างรายได้กลุ่มปีละกว่า 1.35 ล้านบาท

นางประเทือง วาจรัต ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจเรื่องเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เห็นได้จากการที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าปลอดสารเคมี ส่งผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเข้าสู่ระบบการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ ปี 66–70 โดยกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทย เพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 2 ล้านไร่ ในปี 70 สศท.11 ติดตามสถานการณ์การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของจ.ศรีสะเกษ พบว่า ถั่วเหลืองอินทรีย์ นับเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่เกษตรกรเริ่มให้ความสนใจเพาะปลูก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สามารถผลิตหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย อาทิ การสกัดน้ำมัน แปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร หรือผลิตอาหารสัตว์ ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการ

สศท.11 พบการเพาะปลูกถั่วเหลืองอินทรีย์ที่ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ ต.ผักไหม อ.ห้วยทับทัน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์แห่งเดียวของจ.ศรีสะเกษ และได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ จากสหภาพยุโรป (EU)เริ่มดำเนินการในปี 64 ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก 149 ไร่ สมาชิกเกษตรกร 40 ราย มีน.ส.สมศรี สมบัติวงค์ เป็นประธานวิสาหกิจชุมชน


ด้านสถานการณ์การผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน ปีเพาะปลูก 66/67 พบเกษตรกรเพาะปลูกถั่วเหลืองอินทรีย์รุ่น 2 (ฤดูแล้ง) ต้นทุนการผลิตของกลุ่มเฉลี่ย 4,099 บาท/ไร่/ปี เกษตรกรปลูกช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.และเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.ของปีถัดไป ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 95 – 110 วัน ได้ผลผลิตรวม 27 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 182 กิโลกรัม/ไร่/ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 6,384 บาท/ไร่/ปี กำไร 2,285 บาท/ไร่/ปี ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ เกษตรกรอยู่ระหว่างทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือนเม.ย. 22 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของผลผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์ทั้งหมด


ขณะที่ด้านตลาด เกษตรกรจะนำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับกลุ่มตามเกรดคุณภาพในราคา 30-35 บาท/กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาถั่วเหลืองทั่วไปที่มาราคา 19.50 บาท/กิโลกรัม หลังจากนั้นวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ จะรวบรวมผลผลิตทั้งหมดจากสมาชิกจำหน่ายให้กับบริษัท นอร์ธเทอร์น ฟู้ด คอมเพล็กซ์ จำกัด ในราคา 50 บาท/กิโลกรัม เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเครื่องปรุงรส ซึ่งจะ สร้างรายได้ให้กว่า 1,359,000 บาท/ปี

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ มีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มประสิทธิการผลิต การเตรียมดิน การดูแลจัดการแปลงโดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในแปลงเพื่อให้ถั่วเหลืองอุดมสมบูรณ์ ให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาเครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวเพื่อลดต้นทุนการใช้แรงงานคนและลดขั้นตอนการเก็บเกี่ยว
อย่างไรก็ตาม ถั่วเหลือง เป็นพืชอายุสั้น นิยมนำมาปลูกหลังฤดูการทำนา เพราะเป็นพืชใช้น้ำน้อยและยังช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูในระบบการปลูกข้าว ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เกิดความสมดุลของธาตุอาหาร ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นส่งผลต่อการแร่ธาตุในดินที่เพิ่มขึ้นของการปลูกข้าวในฤดูกาลถัดไป อีกทั้งภาครัฐได้ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตพืชเศรษฐกิจ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยหลังฤดูทำนา หากท่านใดที่สนใจข้อมูลการผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์รุ่น 2 (ฤดูแล้ง) สามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาได้ที่ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ โทร.08 6052 3606 และ สศท.11 อุบลราชธานี โทร 0 4534 4654 หรือ อีเมล zone11@oae.go.th

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์