“สส.อัคร” แถลงต่อสหภาพรัฐสภา ไทยเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจกต่อเนื่อง ตั้งกรมใหม่ดูแลโดยเฉพาะ พร้อมใช้กลไกรัฐสภาผลักดันกฎหมายสร้างกลไกมีส่วนร่วมสู่เป้าหมายเน็ตซีโร่
นายอัคร ทองใจสด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพชรบูรณ์ เขต 6 เป็นตัวแทนสมาชิกรัฐสภาไทย กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมยุวสหภาพรัฐสภา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 148 (148th IPU General Assembly) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าการดำเนินนโยบายของไทย สู่เป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และเป็นไปตามร่างข้อมติเรื่องความร่วมมือเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และการส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานสีเขียวในราคาที่เหมาะสม
เพื่อให้เกิดการผสมผสานและเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด และการสนับสนุนไปสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียวเพื่อรองรับ การดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยใช้โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ BCG ให้สอดรับกับสถานการณ์ของประเทศและ ความต้องการใช้พลังงานทุกระดับโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาประเทศควบคู่ไปกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย ได้มีแนวทางในด้านการบริหารจัดการกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ ผ่านการดำเนินการโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการลดก๊าซเรือนกระจก
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยให้ความสำคัญกับปฎิญาของการประชุมประเทศภาคีว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP) กระทรวงทรัพย์ฯ ได้ตั้ง “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และมุ่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยังใช้กลไกทางรัฐสภา โดยสมาชิกรัฐสภาผู้แทนราษฎร มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมาย รวมถึงประสานงานกับฝ่ายบริหารเพื่อจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อและมีการจัดสรรทรัพยากรให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกำกับดูแลการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้การดำเนินการของรัฐสภา ทุกฝ่ายได้ให้ความสำคัญ ในการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างกว้างขวางเพื่อที่จะออกกฎหมายและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เป็นไปตามข้อตกลงปารีส และเป้าหมายลดการเพิ่มอุณหภูมิของโลก เราหวังว่ารัฐสภาไทยจะประสบความสำเร็จในการออกกฎหมายนี้ จะนำไปสู่สิทธิขั้นพื้นฐานของอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชนทุกกลุ่มอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตามในการผลักดันของสมาชิกรัฐสภารุ่นเยาว์ ปัญหาที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องเปิดกว้างในการรับความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ เพราะในโลกใบนี้เยาวชนจะเป็นและจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในอนาคตเพื่อให้เยาวชนเป็นหัวใจสำคัญของทุกสภาพอากาศ นโยบายและเสียงของคนรุ่นอนาคตไม่ควรละเลย กระบวนการตัดสินใจด้านสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา
ความคืบหน้าอีกประการหนึ่งที่เราอยากแบ่งปันก็คือสภาผู้แทนราษฎรของไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ยอมรับในหลักการ “ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด” ในเดือนมกราคมปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขมลพิษทางอากาศด้วยแนวทางที่ยั่งยืนและระยะยาว เราหวังว่ารัฐสภาไทยจะประสบความสำเร็จในการออกกฎหมายนี้ เราภูมิใจในสิทธิขั้นพื้นฐานในการสูดอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชนทุกกลุ่มและยุคสมัย