“ยอดขุนพล”

1752

พระยอดขุนพลรุ่นใหม่ ที่พุทธคุณและมวลสารเข้มขลังไม่แพ้ใคร พระยอดขุนพล หลวงปู่นาม สร้างถวายวัดศรีจันต์ สุพรรณบุรี อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

                ( รูปพระยอดขุนพล )

    ปีพุทธศักราช 2497 มีการจัดหมวดหมู่และลำดับพระเครื่องประเภทต่างๆโดย ท่านตรียัมปวาย ที่ถือเป็นต้นแบบการเล่นหาพระเครื่องในปัจจุบัน โดยได้ริเริ่มการจัดลำดับ “เบญจภาคีของพระ เครื่อง” แต่ละชุดเอาไว้ รวมถึง “ชุดเบญจภาคีพระยอดขุนพลเนื้อชิน” ซึ่งมักจะมีพุทธคุณโดดเด่นเป็นเลิศในด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และมหาอุด ในชุดประกอบด้วย พระร่วงรางปืน, พระหูยาน, พระท่ากระดาน, พระชินราชใบเสมา และ พระมเหศวร โดยพระแต่ละองค์นั้นจะมีพุทธลักษณะอันสง่างาม เข้มขลัง น่าเกรงขาม สมนาม “ยอดขุนพล” พระยอดขุนพล มีการจัดสร้างมาแต่ครั้งโบราณกาล ตั้งแต่ยุคละโว้หรือลพบุรี สุโขทัย อยุธยา มาจนถึงยุครัตนโกสินทร์หรือกรุงเทพฯ ของเรา การจัดสร้างนั้นมีหลากหลายเนื้อ ทั้งเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อสัมฤทธิ์ ปัจจุบันมีเนื้อผงด้วย พุทธคุณเป็นเลิศในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นหลัก ต่อมา ปรากฏพระที่มีพิมพ์ทรงใกล้เคียงกับพระยอดขุนพลถูกผูกเข้ากับตำนานพระเอกในวรรณคดีอย่างขุนแผน ทำให้ถูกกล่าวขานว่านอกจากพุทธคุณด้านแล้วคงกระพันแล้วยังมีด้านเมตตามหาเสน่ห์อีกด้วย ทำให้ “พระยอดขุนพล” เป็นพระที่ได้รับความนิยมสูงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่ข้าราชการทหารตำรวจทั้งหลาย

พระยอดขุนพลกรุเก่าที่มีชื่อเสียงนิยมเล่นหานั้นมีมากมาย โดยเฉพาะที่จังหวัดลพบุรี ที่จัดว่าเป็น พระพิมพ์ยุคต้นๆ เช่นที่ กรุวัดไก่ และ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นอกจากนี้ยังมี การพบในกรุอื่นๆ อีก อาทิ กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา, กรุเสมาสามชั้น จ.เพชรบุรี หรือ กรุชากังราว จ.กำแพงเพชร เป็นต้น พระยอดขุนพล จริงๆแล้วก็คือ พระพิมพ์ประทับนั่งปางมารวิชัย หรือปางสมาธิ อยู่ภายในซุ้ม เรือนแก้ว มีฐานรองรับจะเป็นแบบฐานบัวหรือฐานสี่เหลี่ยมก็ได้ หากนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก อันนั้นคือแบบปางมารวิชัย ส่วนปางสมาธิก็ดูหลวงพ่อโสธร ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ( พระบ้านผมๆ อิๆ ) เมื่อนำทั้งสองปางมาจำลองเพื่อทำเป็นวัตถุมงคลสำหรับห้อยคอหรือติดตัวก็เลยทำซุ้มและรายละเอียดอื่นเพิ่มเข้าไปให้ดูสวยงามและดูขลังเพิ่มขึ้น

        ( รูปพระยอดขุนพล อาจารย์ชุม ไชยคีรี )

    และเนื่องจากพิมพ์พระของพระยอดขุนพลเป็นพิมพ์เดียวกับพระขุนแผนต่างกันที่ถ้าเป็นพระยอดขุนพลจะดูองค์พระล่ำสันกว่าพระขุนแผนที่มักจะออกไปทางอ่อนช้อยสวยงามแต่ถ้ามองผาดๆก็ไม่เห็นความแตกต่างหลายคนเลยเรียกรวมๆว่าพระขุนแผนยอดขุนพลไปซะเลยนอกจากพระยอดขุนพลที่สร้างกันมาตั้งแต่โบราณ บรรดาเกจิคณาจารย์ยุคใหม่หลายท่านที่มีพลังความเข้มขลังทางจิตก็มักนิยมสร้างหรือบางทีลูกศิษย์ก็สร้างมาให้ท่านเสก ยกตัวอย่างเช่น พระยอดขุนพลของอาจารย์สายฆาราวาสอย่างอาจารย์ ชุมไชยคีรี  พระบรมธาตุ 2497 ที่สุดแห่งวัตถุมงคลยุคกึ่งพุทธกาล ของสูงที่พุทธคุณสุดจะประมาณโดยเป็นการร่วมจัดสร้างโดยอาจารย์ชุม ไชยคีรี, อาจารย์นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดชหรือขุนพันธ์

พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์อาจารย์ทองเฒ่าแห่งวัดเขาอ้อ โดยมีวัตถุประสงค์สร้างขึ้นเพื่อถวายพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปีพุทธศักราช 2497 พระพิมพ์จำนวนทั้งสิ้น 84,000 องค์ มีพระพิมพ์ยอดขุนพลที่ทำในครั้งนี้ 2,500 องค์เท่านั้น พระสร้างจากผงยอดขุนพลที่อาจารย์คง วัดแค สร้างเอาไว้ให้ขุนแผนครั้งไปรบศึกที่เชียงใหม่สมัยกรุงศรีฯ เมื่อปี 2497 ท่านอาจารย์คง ได้เข้าประทับทรงบอกให้อาจารย์ชุม ไปขุดเอาผงนั้นขึ้นมาทำพระตามตำราของท่าน เพื่อไว้สำหรับรับปี 2,500 หรือกึ่งพุทธกาล ในระหว่างการสร้างและปลุกเศก ท่านอาจารย์คงได้ประทับทรงปลุกเศกโดยวิญญาณของท่านเองตลอด 3 เดือน เกิดอภินิหารให้ปรากฎแก่ผู้ร่วมทำพิธีหลายครั้ง ออกพิธีแล้วมีการทดลองด้วยอาวุธหลายชนิดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามาแล้ว ท่านสั่งให้แจกแก่แม่ทัพนายกองผู้ที่ต้องทำการรบหรือนำทัพและได้อนุญาตแจกแก่ศิษย์ อาจารย์ชุม และท่านอาจารย์คงยังอบรมให้ผู้ที่ได้รับไปจงตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ผู้มีความเชื่อปฏิบัติตนให้มีศีลธรรมสูงขึ้นเพียงไร จงถึงซึ่งความเป็นใหญ่เป็นโตเป็นยอดแห่งบุคคลสูงขึ้นเพียงนั้น และยังเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญสุขแคล้วคลาดกันอาวุธทุกชนิด สามรถนำติดตัวหรือบูชาประจำบ้านเรือนทำน้ำมนต์ประพรมไพร่พลก่อนออกรบ ประพรมคนเจ็บไข้ได้ป่วย และคนถูกผี ถูกคุณ เรียกว่าพุทธคุณครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว โดยพระยอดขุนพล เป็นพระที่หลวงปู่คงผู้ได้ประสิทธ์ประสาทวิชาให้ ขุนแผนแสนสะท้าน สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยาเนื่องจากขุนแผนนำทัพออกรบแต่ไม่สำเร็จ เพราะดันไปได้เมียก่อนทุกครั้ง ดังนั้นพระอาจารย์คงท่านจึงกำหนดให้ผู้สวมใส่บูชาห้ามถูกต้องตัวสตรีเพศเป็นหลัก ทำให้การรบครั้งต่อถัดมา ขุนแผนจึงชนะศึก เพราะไปยุ่งกับสตรีไม่ได้ตามข้อห้ามนั่นเอง เมื่อท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ขออนุญาตสร้างพระยอดขุนพลจากหลวงปู่คงสำเร็จแล้วจึงต้องรักษาเคล็ดข้อห้ามไว้ตามแบบโบราณไว้ดังเดิม ดังนั้นผู้ที่บูชาสวมใส่พระยอดขุนพลุติดตัว จึงไม่ควรถูกต้องสตรีเพศเพื่อเป็นการเคารพต่อข้อห้าม ( สมัยนี้ท่าจะลำบาก ) ส่วนที่ว่าพระยอดขุนพลคนทั่วไปห้ามใช้นั้น ในสมัยที่ท่านอาจารย์ชุมยังมีชีวิตอยู่ ขนาดอัตราค่าบูชาพระยอดขุนพลจะมีราคาสูงมากในสมัยนั้นแต่ก็มีคนอยากได้ไปบูชาพร้อมสู้ราคา แต่ก็ต้องได้รับการพิจารณาจากท่านอาจารย์ชุมโดยตรงว่ามีความเหมาะควรหรือไม่ จึงจะรับพระยอดขุนพลไปได้ ท่านอาจารย์จะพิจารณาให้เช่าบูชาโดยเน้นทหารตำรวจระดับแม่ทัพนายกองเป็นหลักแต่ไม่ใช่จะได้ทุกคน ข้าราชการระดับหัวหน้า ถ้าไม่ใช่ข้าราชการก็ต้องเป็นในระดับหัวหน้าหรือผู้นำ ขนาดศิษย์ในสำนักของท่านเองก็ต้องผ่านการพิจารณาจากท่านว่าเหมาะสม และผู้ที่เช่าบูชาพระยอดขุนพลมักจะต้องสมาทานและรักษาศีล ๕ โดยเฉพาะศีลข้อ ๓ เป็นหลัก (ผู้เขียนหมดสิทธ์ละหนึ่ง ฮือๆ )  ก่อนนำไปใช้ทุกครั้งให้ว่า นะโม 3 จบ ภาวนา “สัพพะมะละตะวิสิสะริง” 3 จบ แล้วภาวนาก่อนออกเดินทางด้วย “พุทโธหะเวรักขะติธัมมะจาริง ฉัตตังมหันตัง วิยะวัสสะกาเล” 3 จบ

        ( รูปพระยอดขุนพล หลวงปู่นาม )

    หลายท่านคงอยากได้ไว้บูชาสักองค์แต่พอเห็นข้อห้ามแล้วกลัวจะทำไม่ได้ ไม่เป็นไรครับทางนี้มีของดีมานำเสนอ แฮ่ม! เป็นพระยอดขุนพลเหมือนกัน มวลสารมีส่วนผสมผงพระอาจารย์คงวัดแคเหมือนกัน ปลุกเสกโดยเกจิอันเข้มขลังด้านพลังจิตเช่นเดียวกัน เพียงแต่สร้างทีหลังเท่านั้นเอง ขอนำเสนอ พระยอดขุนพล พระอาจารย์นาม แห่งวัดน้อยชมพู่จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ท่านสร้างถวายวัดศรีจันต์

พระยอดขุนพล วัดศรีจันต์ ที่ หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ สุพรรณบุรี สร้างถวายนั้น ถือเป็นพระยอดขุนพลยุคใหม่รุ่น 2 ก็ว่าได้ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับ “พระยอดขุนพล” พิมพ์เดิม ครั้งสร้างปี 2497 ที่ ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี และ ท่านพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ร่วมกันสร้าง โดยอัญเชิญผงเก่าของอาจารย์ขุนแผน โดย เมื่อปี 2496 ท่านได้นิมิตไปว่ามีหลวงปู่ องค์หนึ่งมาแนะนำ ให้ท่านสร้างพระคือ พระผงเทพนิมิต หลังจากนั้นหลวงปู่องค์ที่ท่านเห็นในนิมิต ได้เข้าประทับทรง บอกว่าท่านคือ หลวงปู่คง วัดตาล ซึ่งเดิมท่านอยู่วัดตาลแล้วย้ายมาอยู่วัดแค ผู้เป็นอาจารย์ของขุนแผน ผงนี้ขั้นหัวเชื้อ ปัจจุบันเก็บอยู่ที่วัดศรีจันต์ ทางท่านอาจารย์ชุมและคณะผู้สร้างพระยอดขุนพลรุ่นแรกจึงได้มาขอปันผงศักดิ์สิทธ์ไปสร้างพระจนสำเร็จเป็นพระยอดขุนพลรุ่นแรกอันโด่งดัง และครั้งนี้ก็ได้นำมาสร้างพระยอดขุนพล รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ ๒ โดยใช้แม่พิมพ์พระแบบพระยอดขุนพลของอาจารย์ชุมเพิ่มเติมเอกลักษณ์ของเมืองสุพรรณคือ ปางป่าเลไลยก์ พระพุทธรูปคู่เมืองสุพรรณ ลิงถวายรังผึ้ง ช้างถวายคบน้ำ ไว้ด้านซ้ายด้านขวา มีเทวดา ๒ องค์ พนมมืออัญชลีอยู่ด้านบน นอกจากมวลสาร ผงศักดิ์สิทธิ์อาจารย์คง ที่มีที่มาอันแสนอัศจรรย์แล้ว ยังมีผงพระเก่าที่หลวงปู่กล้าย วัดหงส์รัตนาราม ที่ท่านลบไว้ เมื่อปี 2498 ซึ่งผงหลวงปู่กล้วยนั้น มีประวัติไม่ธรรมดา ว่ากันว่าผ่านการปลุกเสกจากยอดเกจิอาจารย์ ดังมีบันทึกของวัดศรีจันต์ ดังนี้ ” นายอุทัย วรรณธนบูรณ์ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว และนายอุดม วรรณธนบูรณ์ สมัยยังเป็นเด็กเห็นหลวงปู่กล้าย ทำผงพระ โดยได้นำผงกับพระเครื่องขอให้พระเกจิผู้ใหญ่ในสมัยนั้นที่หลวงปู่กล้ายรู้จักปลุกเสกให้อาทิเช่น

หลวงพ่อสด วัดปากน้ำปลุกเสกด้วยวิชาธรรมกายพร้อมกับพระวัดปากนํ้ารุ่น 3

ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ปลุกเสกในปี 2501

หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิษ ปลุกเสกให้ 3 เดือน

หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี เสกให้เกือบ 1 ปีเต็ม

นอกจากนี้หลวงปู่กล้ายยังนำผงและพระไปให้หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว หลวงพ่อเต๋ คงทอง หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผาราม หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ หลวงพ่อกาพย์ วัดจรรย์ หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลก์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมปลุกเสกให้ ยอดผงเก่านี้ นำมาเป็นหนึ่งในมวลสารการสร้างพระยอดขุนพลรุ่นนี้ “ผงดี รูปแบบดี เจตนาดี ที่สำคัญ หลวงปู่นามท่านสร้างเอง ปลุกเสกเอง และมอบให้วัดศรีจันต์นําไปออกให้เช่าบูชาเพื่อสร้างถาวรวัตถุของวัด

พระยอดขุนพลนี้ เป็นพระดีผู้ใดมีไว้บูชาเปรียบประดุจว่าเป็นยอดขุนพล ยอดคน ยอดพระ ผงเก่าของยอดเกจิขลัง ที่ปัจจุบันจะหาพระเครื่องของแต่ละองค์ราคาก็ไปไกล ถ้าห้อยพระยอดขุนพลหลววปู่นามองค์นี้ เท่ากับห้อยพระเกจิหลายองค์ในองค์เดียว

พุทธคุณ เน้นหนักทางด้านโชคลาภ มหาเสน่ห์เมตตาเป็นพิเศษ แต่ไม่ลืมด้านแคล้วคลาดคงกระพัน  มีสร้างด้วยกัน 2 เนื้อ

1.เนื้อมหาว่านดำแก่ว่านหิ่งหาย พุทธคุณ ดับทุกดับร้อน ดับภัย ดับอันตรายดับสิ่งไม่ดี แบบธรรมดา สร้าง 3,500 องค์,แบบฝังตะกรุดเงินคู่ สร้าง 900 องค์

2. เนื้อมหาขาวแก่ผงปัถมังเมตตามหานิยม นะหน้าทอง คนรักเทวดานิยมยินดี แบบธรรมดา 3,500 องค์, แบบฝังตะกรุดเงินคู่ สร้าง 900 องค์

เป็นพระราคาจับต้องได้ ( ณ ตอนนี้นะ ) วัตถุประสงค์ดี พิธีดี มีมวลสารสุดยอด ปลุกเสกอย่างเข้มขลังพลังล้นอย่างตั้งใจ โดยหลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู่ หนึ่งในยอดเกจิแห่งสุพรรณบุรี อนาคตไปได้อีกไกลแน่ๆครับ

คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนหรือตำนานอะไรครับ

                        เขียนโดย ต้น คนชอบพระ

        ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ

ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ

สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น