ทส.ยันใช้งบแก้ไฟป่า-ฝุ่น PM2.5 โปร่งใส

201

ทส. ยันใช้งบกลางแก้ปัญหาไฟป่าอย่างโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบ พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

วันที่ 17 มีนาคม 2567 นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)โฆษกประจำกระทรวงฯ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีประเด็นในโลกออนไลน์ ตั้งข้อสงสัยในการใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ฝุ่นละออง PM2.5  ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้นั้น แม้ว่าในประเด็นที่กล่าวถึงเป็นงบภัยพิบัติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ ตนขอชี้แจงว่างบประมาณที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ได้รับเป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน เป็นเงินทั้งสิ้น 272,655,350 บาท

เงินดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเป็นส่วนของกรมป่าไม้ 109.94665 ล้านบาท และของกรมอุทยานฯ 162.7087 ล้านบาท สำหรับดำเนินการจ้างประชาชนประจำจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า เพื่อร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยการเฝ้าระวัง ลาดตระเวน แจ้งเหตุไฟไหม้ และดับไฟป่าเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5

ทั้งนี้ โครงการฯ มีระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2567 ประกอบด้วยกิจกรรม ค่าจ้างสำหรับจ้างประชาชนเป็นรายบุคคล ประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า, ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องเป่าลม, ค่าจัดซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่า, ค่าวัสดุสำนักงานสำหรับลงทะเบียนการเข้า-ออก ของประชาชนที่ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า/ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า, ค่าจัดประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบและการแก้ไขปัญหาไฟป่าให้แก่ประชาชนในพื้นที่, ค่ารณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนในพื้น, ค่าประสานงานและติดตามผลการดำเนินการของจุดเฝ้าระวังป้องกันไฟป่า, ค่าจัดซื้อเครื่องเป่าลมดับไฟป่าประจำจุดเฝ้าระวัง

โดยดำเนินการในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 10 แห่ง จำนวน 1,069 จุด และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 98 แห่ง จำนวน 1,582 จุด โดยให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด ทั้งการนำใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลการเกิดจุดความร้อนในอดีต และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ประกอบการวิเคราะห์ เพื่อกำหนดจุดเฝ้าระวังไฟป่าให้เหมาะสม

ซึ่งในการดำเนินโครงการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทส. ได้กำชับให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติงานตามแผนงานและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทั้งยังเน้นย้ำถึงการดำเนินงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน นำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤตไปปฏิบัติอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่มุ่งเป้า 10 ป่าสงวนแห่งชาติ และ 11 ป่าอนุรักษ์ พร้อมทั้งวางระบบการตรวจสอบและติดตามผล โดยจะมีการลงข้อมูลของผู้ปฏิบัติงานไว้ในระบบ Google Forms ประกอบด้วยข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ ภาพถ่าย เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้และมีการรายงานผลการปฏิบัติงานกับหัวหน้าพื้นที่ป่าตลอดระยะเวลาปฏิบัติงาน

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #เถลิงศักดิ์เพ็ชรสุวรรณ #กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม #พัชรวาทวงษ์สุวรรณ #กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช #ไฟป่า #PM2.5