เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมเป็นผู้แทนไทย โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นหัวหน้าคณะ เข้าร่วมการประชุมระดับสูง (High-Level Segment)ในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotics Drug: CND) สมัยที่ 67 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 14 – วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567 โดยได้ร่วมรับฟังถ้อยแถลงจากผู้แทนเยาวชนโครงการ UNODC Youth Forum 2024 ซึ่งมี นางสาวฉันทิสา ดีไพร ผู้แทนเยาวชนไทย ในโครงการดังกล่าวร่วมด้วย
เมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลากรุงเวียนนา คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมในพิธีเปิดกิจกรรมคู่ขนาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดกิจกรรมคู่ขนานของประเทศไทย ในหัวข้อ “ครบรอบ 10 ปี แนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ” (10 Years of the United Nations Guiding Principle (UNGP) on Alternative Development: Past, Present and Future) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบราซิล จีน โคลอมเบีย ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ เยอรมัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เปรู สหรัฐอเมริกาสหภาพยุโรป และ สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิกในการปรับใช้แนวปฏิบัติ UNGP on AD ให้เข้ากับสถานการณ์ยาเสพติดของแต่ละประเทศในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทางเลือกต่อไปในอนาคต
ต่อมาเวลา 14.30 น. ตามเวลากรุงเวียนนา คณะผู้แทนไทยยังได้เข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการภายใต้หัวข้อ“การพัฒนาทางเลือกของประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: จากพื้นถิ่นสู่สากล ช่วยพื้นที่สูง ช่วยประเทศช่วยโลก” (Thailand’s Alternative Development towards Sustainable Development Goals: From Local to Global. Help the Highlands, Help the Country, Help the World) และรับฟังการกล่าวเปิด โดย พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา6 รอบ 72 พรรษา ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 และเผยแพร่ พระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยต่อพัฒนาการการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยผู้แทนสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้เข้าร่วมการอภิปรายโต๊ะกลมภายใต้หัวข้อ “การประมวลติดตามผล การดำเนินงานตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2019” ซึ่งดำเนินคู่ขนานไปกับการประชุมระดับสูง โดย เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของประเทศไทย ในการดำเนินการตามเอกสารผลลัพธ์การประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ. 2016 (United Nations General Assembly Special Session: UNGASS 2016) ซึ่งใช้หลักการ สาธารณสุขนำในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ พ.ศ. 2564 โดยเน้นย้ำหลักการ “การเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” และการให้ความสำคัญกับการปลุกพลังชุมชนให้มีส่วนร่วมในการต่อสู้กับปัญหา ยาเสพติด พร้อมปราบปรามสกัดกั้นยึดทรัพย์ผู้ค้าและทำลายเครือข่ายอย่างจริงจัง รวมถึงการปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อคืนความสงบสุขและความปลอดภัยให้แก่ ประชาชน ตลอดจนได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศและได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จาก สปป.ลาว และเมียนมา ในการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ในช่วงเย็น ผู้แทน สปป.ลาวได้กล่าวถ้อยแถลงในนามของประเทศสมาชิกอาเซียนที่เน้นย้ำความพยายาม ของอาเซียนในการจัดการกับปัญหายาเสพติดในภูมิภาคผ่านกลไกต่างๆ ทั้งศูนย์ความร่วมมือยาเสพติดอาเซียน (ASEAN-NARCO) คณะทำงานสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานและท่าเรืออาเซียน การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้าน การป้องกันยาเสพติด การให้การบำบัดโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน และการส่งเสริมการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือกเพื่อลดปัญหาพืชเสพติด เพื่อมุ่งสู่การเป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติดอาเซียนต่อไป