ชี้สภาวะจิตใจตำรวจวิกฤต งานล้น-หนี้บาน-นายถอดใจ…วอนรัฐบาลเร่งเยียวยา                   

1234


                    หากมองสถานการณ์ในองค์กรตำรวจ ณ เวลานี้ไม่น่าอภิรมย์นัก ไล่ตั้งแต่ระดับบริหารที่แบ่งก๊กแบ่งพวกเปิดศึกวิวาทะใช้วาจาเหน็บแนมเย้ยหยันกันสารพัดรูปแบบ


                  แม้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)จะออกคำสั่งให้รูดซิปปากเพื่อสยบคลื่นลมให้สงบ แต่ยังมีบางส่วนเลี่ยงบาลีใช้การสื่อสารในรูปแบบโชว์สัญลักษณ์ดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามให้รู้สึกเจ็บๆคันๆ


                   จนสื่อมวลชนบางสำนักนำไปวิเคราะห์กันว่าการเปิดศึกเกาเหลา มีเป้าหมายหลักเพื่อเจาะยางเตะสกัดไม่ให้ ตำรวจบางนายก้าวเดินถึงฝั่งฝันนั่งเจ้าสำนักปทุมวัน


                  ศึกเกาเหลาจะจบลงเมื่อใดนั้น คงประเมินได้ว่าน่าจะเป็นหนังยาวลากไปถึงการสรรหา ผบ.ตร.คนใหม่แน่นอน


               แต่กว่าถึงวันนั้นองค์กรตำรวจคงจะสะบักสะบอมหนัก และมีโอกาสที่สะเทือนไปถึงขวัญ กำลังใจ ของตำรวจระดับล่างด้วย 


                เพราะทุกวันนี้หากใครได้สัมผัสถึงการทำหน้าที่ของตำรวจระดับปฏิบัติการ จะพบความจริงอย่างหนึ่งว่าชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก สภาพจิตใจย่ำแย่ ไร้กำลังใจในการทำหน้าที่


                ขอยกตัวอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นสัก 3 กรณี
              กรณีแรก พ.ต.ท.(หญิง)มัญชุภา ทรัพย์วิลาวรรณ นักวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐาน นนทบุรี ยื่นหนังสือลาออก โดยให้เหตุผลว่า”อึดอัด เหนื่อย ทำงานเยอะ นายเลือกที่รักมักที่ชัง ลำเอียง ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เป็นโรคซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตาย”


            กรณีที่ 2 ส.ต.อ.สังกัด สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุแทงผู้หญิง 2 คน เสียชีวิตและบาดเจ็บ สาเหตุคุมสติไม่ได้ ตรวจสอบประวัติพบว่ามีอาการป่วยจิตเวชเข้ารักษาตัวตั้งแต่ปี 2565 อาการดีขึ้น หมอลดยาให้ วันเกิดเหตุขับรถตกข้างทางคุมสติไม่ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งแทงชาวบ้านตายเจ็บ ตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติดใดๆ


     กรณีที่ 3  ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดนครนายก เกิดอาการสติหลุดก้มกราบสารวัตร หลังผู้บังคับการฯเรียกไปชี้แจงกรณีถูกลูกน้องร้องเรียนว่าถูกบังคับให้เดินเก็บส่วย


       ที่ยกมาเพียงเพื่อสะท้อนว่าการบริหารภายในองค์กรเกือบทุกระดับต่างมีปัญหาและไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงและยั่งยืน ทั้งที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมีที่ปรากฏเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว


     อย่างกรณีตำรวจไขก๊อกจะเกิดขึ้นหลังมีการแต่งตั้งโยกย้าย หลายนายยื่นใบลาออกเพราะไม่สมหวังกับความก้าวหน้าที่ทั้งที่ผลงานเป็นที่ประจักษ์ หลายนายอึดอัดเพราะงานล้นมือแต่หัวหน้าหน่วยละเลยที่จะช่วยแก้ปัญหา


      นอกจากสภาพปัญหาการทำงานที่หัวหน้าหน่วยไร้ภาวะผู้นำแล้ว ตำรวจส่วนใหญ่ยังเผชิญกับภาระหนี้สินที่เกินจะแบกรับเพราะรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง บางนายเกษียณอายุแทบจะไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย


      ขณะเดียวกันตำรวจที่ใกล้ชิดนายถ้าเจอนายดีไม่สนับสนุนให้นอกลู่นอกทางพออยู่ได้ แต่บางคนเจอนายเลวผสมกับความอยากได้ของตัวเอง ช่วงกันมุ่งหาประโยชน์ในทางมิชอบ บั้นปลายต้องคอตกออกจากราชการแถมมีคดีติดตัวอีกต่างหาก ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้องค์ตำรวจจมปลักอยู่วังวนน้ำเน่า ประชาชนไร้ศรัทธา


      ในห้วง 8 ปีที่ตำรวจอยู่ในอุ้งมือของรัฐบาลเผด็จการทหาร แทนที่จะเป็นยุคเฟื่องฟูเพราะผู้นำรัฐบาลเป็นอดีตข้าราชการ น่าจะเข้าใจหัวอกของข้าราชการด้วยกัน แต่กลับถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือแสวงประโยชน์ทั้งรูปแบบเซ็งลี้ตำแหน่ง ใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม


   ผบ.ตร.แต่ละยุคพอขึ้นรับตำแหน่ใหม่ๆมักจะประกาศนโยบายสวยหรู ตำรวจฟังแล้วต่างชื่นมื่น พอฉากสุดท้ายนโยบายไร้ความหมาย เพราะห่วงความมั่นคงของเก้าอี้มากกว่า เมื่อประเมินถึงภาพรวมบ่งบอกได้ว่าสถานการณ์ในองค์กรตำรวจย่ำแย่หนัก แต่ที่พอใจชื่นขึ้นได้บ้าง เมื่อเห็นภาพ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เชิญ รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วยผบ.ตร. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.)และอดีตนายพลสีกากีตำรวจแท้ ร่วมหารือรับฟังปัญหา หวังใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับองค์กร


   จึงได้แต่หวังว่าจากนี้ไปอีก 7 เดือน จะได้เห็นภาพ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตั้งวงถกกับรอง ผบ.ตร.แล้ววางแนวทางแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานให้เห็นเป็นรูปธรรม ประธาน ก.ตร. และ ประธาน ก.ต.ช. คือ สร.1 จริงใจจะแก้ปัญหาหรือจะใช้องค์กรตำรวจหาประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่ภาคประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมตำรวจแท้(ตำรวจแท้ ด้วยจิตวิญญาน)


       แม้จะแก้ไขได้ไม่มากอย่างน้อยจะทำให้ปัญหาได้เบาบางลงบ้าง ซึ่งจะช่วยเรียกขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจที่ตั้งใจทำงานกลับมาบ้าง  ดีกว่าเอาเวลาที่เหลืออยู่เดินสายตรวจเยี่ยมหน่วยงานแล้วจบลงด้วยการถ่ายรูปลงสื่อ


    ที่สำคัญจะไม่ทำให้วงประชุมที่ระดมทุกฝ่ายมาหารือสูญเปล่าเหมือนอดีตที่ผ่านมา !!! ประชาชนอย่างพวกเรามารอดู กัน