อสส.ส่งหนังสือแจ้ง ผบ.ตร.ให้คุ้มครองความปลอดภัยอัยการฯสอบสวนและอัยการพิเศษปมถูกคุกคาม

15222

อัยการสูงสุดมีหนังสือแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้กำหนดมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ซึ่งถูกคุกคามเนื่องจากการเข้าไปให้คำแนะนำสืบสวนสอบสวนคดี ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ พร้อมกับแจ้ง หากพบผู้กระทำความผิดในการคุกคามและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

ตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งมอบหมายให้นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 เข้าให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาที่ 468 / 2566 ของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ คดีระหว่าง พันตำรวจโท มนต์ชัย บุญเลิศ ผู้กล่าวหา นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ (คดีมินนี่) คดีดังกล่าว ต่อมาได้โอนให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เป็นผู้รับผิดชอบทำการสอบสวน โดยรับไว้เป็นคดีอาญาที่ 724 / 2566 โดยให้นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และนายสุริยน ประภาสะวัต เข้าทำหน้าที่ตั้งแต่ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป การมอบหมายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีสำคัญและเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มีความยุ่งยาก สลับซับซ้อน มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นเครือข่ายจำนวนมาก เพื่อประโยชน์ ในการสืบสวนสอบสวนในคดีอาญาซึ่งดำเนินคดีโดยรัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการมอบหมายดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 ข้อ 9 ข้อ 15 ข้อ 16 และข้อ 17

ต่อมา พันตำรวจเอก ภาคภูมิ พิสมัย กับพวกรวม 8 คน ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ของนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ต่ออัยการสูงสุด พร้อมกับแนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และนายสุริยน ประภาสะวัต ในขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว โดยภาพดังกล่าวมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย โดยผู้ถูกถ่ายภาพไม่ยินยอมและไม่รู้ตัว เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ในเชิงการคุกคามข่มขู่ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และนายสุริยน ประภาสะวัต ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้วพบว่า ตามหนังสือร้องเรียนของผู้ต้องหาทั้งแปด ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มีหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่าผู้ที่ติดตามแอบถ่ายดังกล่าว และผู้ต้องหาทั้งแปดที่ร้องเรียน ซึ่งถูกสอบสวนดำเนินคดีนี้ ปัจจุบันยังคงรับราชการเป็นตำรวจอยู่ การกระทำของผู้ต้องหาทั้งแปดมีลักษณะเป็นการข่มขู่ ติดตามชีวิตส่วนตัว และอาจไม่ปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัวโดยสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่สามารถหามาตรการที่รองรับความปลอดภัยของตนและครอบครัวได้ มีความประสงค์ขอพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะพนักงานสอบสวนชั่วคราว จนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ตนได้

อัยการสูงสุดได้พิจารณาหนังสือนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และนายสุริยน ประภาสะวัต แล้ว เห็นว่าบุคคลทั้งสองถูกคุกคามข่มขู่ สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวนในคดีที่อัยการสูงสุดมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่จริง จึงได้สั่งการ ดังนี้

(1) ดำเนินการให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 และบุคคล
ในครอบครัว ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ จนกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของตนเองและบุคคลในครอบครัวหมดไป

(2) แจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว และให้พิจารณาดำเนินมาตรการไม่ให้ผู้ต้องหา ผู้ร้องเรียนทั้งแปด ที่ยังคง
รับราชการเป็นตำรวจ มีพฤติการณ์กระทำในเชิงคุกคามข่มขู่พนักงานอัยการที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ และขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน

(3) อนุญาตให้นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวนและนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ไว้ก่อนชั่วคราว นับตั้งแต่วันที่อัยการสูงสุดอนุญาตเป็นต้นไป จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามข้อ 1 และข้อ 2 เสร็จแล้ว

(4) หากเห็นว่าพฤติการณ์การกระทำในเชิงคุกคามข่มขู่สิ้นสุดลงและพนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่เห็นว่ามีความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินแล้ว ให้กราบเรียนอัยการสูงสุดเพื่อโปรดทราบและแจ้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ

(5) แจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า จากการกระทำดังกล่าวมีบุคคลใดได้กระทำความผิดอาญา หรือไม่ หากพบการกระทำความผิดให้มีการดำเนินคดีและรายงานผลคดีให้อัยการสูงสุดทราบด้วย

งานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
19 กุมภาพันธ์ 2567

คลิกอ่านหนังสือฉบับดังกล่าว

https://me-qr.com/slZ4Cb3g

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ผบตร