นทท.สาวญี่ปุ่นลักรถอาสากู้ภัย ขณะจอดช่วยคนเจ็บหน้าโรงพักลุมพินี ถูกสกัดจับคาวงเวียนใหญ่

327

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 ก.พ. ขณะที่ร.ต.อ.นพภา ทองบ่อ รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักรถอาสากู้ภัย บริเวณหน้าสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ ฯ จึงประสานฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ลุมพินี และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้า สน.ลุมพินี พบนายพิศุทธิ์ ชูเกลี้ยง อายุ 50 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สน.ลุมพินี รหัส 02-22-14 อยู่ในอาการตื่นตระหนก แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนร้ายขโมยรถเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็ก ปี 1997 สีขาวข้างรถติดสติ๊กเกอร์มูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสลุมพินี 14 ขณะจอดรถเปิดไซเลนอยู่หน้า สน. ให้การช่วยเหลือชายต่างชาติได้รับบาดเจ็บอยู่ จู่ ๆ ถูกขโมยไป จึงเร่งประสานให้กลุ่มอาสากู้ภัยให้ช่วยกันออกตามหา จนสามารถจับกุมหญิงต่างชาติผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณในวงเวียนใหญ่ ใกล้กับหน้าร้านธนบุรีศึกษา ถนนประชาธิปก แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุต่อมาคือนางสาว คาซูมิ ทามากาวะ (Ms.Kazumi tamakawa) อายุ 49 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ถูกอาสาร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ๊งร่วมกันสกัดจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี

สอบสวน นายพิศุทธิ์ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุเกิดช่วงประมาณ 7 โมงกว่าๆ ตน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพระนครว่า มีผู้บาดเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทหน้า สน. ผู้บาดเจ็บเป็นชายชาวต่างชาติก่อเหตุทุบรถคู่กรณี จึงมากับเพื่อนอาสาอีก 1 คน นำรถคันดังกล่าวมาจอด ระหว่างที่ตนกำลังปฐมพยาบาลให้กับชายชาวต่างชาติศรีษะแตก และเตรียมนำคนเจ็บไปส่งที่ รพ. ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที มีคนงานก่อสร้างมาบอกว่า พบว่าหญิงสาวคนก่อเหตุ ได้เดินไปที่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวร 30 ที่จอดอยู่หน้ารถกู้ภัยของตน แต่คาดว่าไม่มีกุญแจเสียบไว้ ทำให้ไม่สามารถขับได้ จนมาเปิดรถกู้ภัยตนที่สตาร์ทเครื่องไว้ และเปิดไซเลนค้างไว้ด้วย โดยคนร้ายขับรถตนออกไปทันที จากนั้นตนจึงวิ่งไปตามร้อยเวร และสายตรวจ สน.ลุมพินี และแจ้งให้อาสาช่วยกันสกัดรถของตน เนื่องจากเห็นคนร้ายขับรถตนไปอยู่แถวตากสิน จากนั้นเพื่อนอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทราบจากวิทยุจึงขับปาดหน้าสกัดจับได้ที่วงเวียนใหญ่

นายพิศุทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความเสียหายของตัวรถยังไม่พบ รวมถึงทรัพย์สินในรถอยู่ครบ โดยภายในรถจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ อาทิ กระเป๋ายา ที่วัดความดัน และวิทยุสื่อสาร โดยหลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับทางผู้ก่อเหตุเนื่องจากพูดไม่รู้เรื่องต้องใช้ล่ามแปลภาษามาช่วย ส่วนบาดแผลของผู้ก่อเหตุเกิดจากการล็อคตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ขับหลบหนีไปชนชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยอมรับว่าตกใจมากเพราะตั้งแต่ออกรถคันนี้มาเกือบ 15 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ส่วนเรื่องทางคดีขอปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ

ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า เบื้องต้นจึงต้องประสานเจ้าหน้าที่สถานฑูตญี่ปุ่นและ ตม.เพื่อขอดูเอกสารการเข้าเมือง ก่อนแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากทางผู้ต้องหาไม่สามารถนำเอกสารวีซ่ามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ญี่ปุ่น