เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 ที่ห้องสื่ิอมวลชนประจำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ณัฐทิตา (สงวนนามสกุล)ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดยหนังสือฉบับดังกล่าว ลงวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา มีใจความระบุว่า เรื่อง ร้องทุกข์กล่าวโทษและขอความเป็นธรรม
เรียน ผู้บัญชาการจำนักงานตำรวจแห่งชาติ สิ่งที่ส่งมาด้วย (1)ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท(2)รายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน ลงวันที่ 26 กันยายน 2566(3) หนังสือแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2566
(4)เพิ่มเติมรายละเอียดและเอกสาร ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2566(5) หนังสือให้การเพิ่มเติมและอ้างข้อกฎหมายสนับสนุน ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
(6)หนังสือส่งพยานหลักฐานแฟลซไดฟ์ ลงวันที่ 4 มกราคม 2567(7)รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ลงวะนที่ 27 กันยายน 2566(8)หนังสือขอทราบความคืบหน้าและส่งเอกสารเพิ่มเติม ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2566(9)หนังสือส่งเอกสารเพิ่มเติม ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2566(10)ขอแก้ไขข้อผิดและแจ้งความดำเนินคดี ลงวันที่ 4 มกราคม 2567
ด้วยเมื่อวันที่ 2 – 3 กันยายน พ.ศ. 2566 ต่อเนื่องกัน ได้มีกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้าไปในบริษัทฯ โดยตัดกุญแจเข้าไปลักเอาทรัพย์สินของบริษัทฯ ไปหลายรายการมูลค่าประมาณหนึ่งล้านบาทเศษ เหตุเกิดที่บริเวณหมู่ 1 ตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
ต่อมาวันที่ 26 กันยายน 2566 ข้าพเจ้า น.ส.ณัฐทิตา ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนห้างฯ และในฐานะส่วนตัว ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เป็นเวลาเดือนเศษไม่ใด้รับการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าพเจ้าฯ จึงปรึกษาและมอบอำนาจให้ทนายความให้ช่วยติดตามและเรงรัดคดี ทนายมีหนังสือถึงพนักงานสอบสวน 3 ฉบับ ปรากฏ
ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ถึง 5 และวันที่ 27 กันยายน 2566 ผู้แจ้งพบพยานหลักฐานการโพสต์เอกสารของบริษัทฯ และใบสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อของผู้แจ้งใน facebook จึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น จังหวัดเชียงราย แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินโดยผ่านสิ่งของเช่นว่านั้นเข้าไปฯ ปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วยและภาพถ่ายบางส่วน และผู้แจ้งได้มอบอำนาจให้ทนายความติดตามเร่งรัดคดี ปรากฎตามสิ่งที่ส่งมา ด้วย 7 ถึง 10 แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี ตามที่ผู้แจ้งได้กล่าวมาแล้วเบื้องต้น เจ้าพนักงานตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ในวันที่ 2 กันยายน 2566 และพบการกระทำผิดซึ่งหน้าแต่ไม่กระทำการใดเพื่อระงับเหตุปล่อยให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายจนมีการแชร์ภาพคลิปวีดิโอและข้อความหมิ่นประมาทผู้แจ้งไปในสื่อออนไลน์ไปอย่างกว้างขวาง
จนเกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ อย่างมาก แทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้โดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นการบรรเทาความเสียหายของผู้แจ้งและให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้แจ้ง แต่จนปัจจุบันเจ้าพนักงานตำรวจ ยังไม่มีการติดตามกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลแต่อย่างใด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่เป็น
เหตุการณ์ซึ่งหน้าและความล่าช้าในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจและไม่พยายามหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว แล้วประชาชนคนธรมดาอย่างผู้แจ้งจะสามารถพึ่งพาอาศัยใครได้อีก จึงตัดสินใจมาร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร.ให้เร่งรัดติดตามคดีเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษและหากพบว่าเจ้าพนักงานตำรวจนายใดจงใจ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และหรือจงใจช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้พ้นโทษ ข้าพเจ้าฯ ขอแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับทุกๆ นายที่ทำให้ผู้แจ้งเสียหายจึงเรียนมาเพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรม ”หนังสือร้องทุกข์ฉบับดังกล่าว ระบุ“
น.ส.ณัฐทิตา กล่าวว่า ตนได้ถูกเจ้าหนี้โหด อ้างตัวว่าสนิทกับบุคคลระดับสูง ได้รุมทำร้าย แล้วขนสินค้าจากตนไปจนหมด ตนได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เวียงแก่น ภ.จว.เชียงราย แต่เรื่องกลับเงียบไม่มีความคืบหน้าไดๆ และยังได้ส่งข้อความผ่านโซเชียล ลักษณะข่มขู่ฆ่า หลายครั้ง ตนเองเกรงว่า ตนและครอบครัว จะเกิดอันตรายต่อชีวิต จึงเดินมายื่นเรื่องร้องทุกข์ ต่อสื่อมวลชนประจำ ตร. และ ผบ.ตร. เพื่อขอความเป็นธรรม ขอได้โปรดตรวจสอบกรณีของตนด้วย ขอกราบขอบคุณท่าน ผบ.ตร.“นางสาวณัฐทิตา กล่าว
