วันนี้ (13 ก.พ. 67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานความคืบหน้ากรณีการ ดำเนินคดี นายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวของประชาไท และ นายณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพอิสระ ถูกตำรวจชุดนอกเครื่องแบบแสดงหมายจับข้อหาเป็นผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความ โดยนำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้ จากกรณีทั้งคู่ติดตามรายงานข่าวเหตุการณ์เมื่อ 28 มี.ค. 2566 ที่รั้ววัดพระแก้ว
ต่อมา เวลา 15:50 น. ศูนย์ทนายความเพื่อ สิทธิมนุษยชนรายงานว่าศาลอาญาให้ประกันตัวทั้งคู่โดยวางเงินคนละ 35,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขอื่น หลังศาลอนุมัติฝากขังในตอนแรก โดยทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวจากศาลอาญาในช่วงเย็นวันนี้
ขอบคุณข้อมุูลจาก FB ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
https://www.facebook.com/lawyercenter2014
ศาลปล่อยตัวชั่วคราว”ณัฐพล ช่างภาพอิสระ- ณัฐพล ผู้สื่อข่าวประชาไท” ชั่วคราว ด้านช่างภาพอิสระเผยรู้สึกยินดีที่เป็นส่วนหนึ่ง ทำให้พ.ร.บ.อุ้มหายสำเร็จ
ต่อมา ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว นายณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพอิสระ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เจอน้องผู้ที่ก่อเหตุในการทำกิจกรรมยืน หยุด ขังที่หน้าศาลฎีกา จำไม่ได้ว่าก่อนที่จะมีเหตุพ่นสีหรือไม่ ก็มีการพูดคุยกัน คิดว่าการคุยกับแหล่งข่าวเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าห้ามคุยกัน เป็นการหาข่าว ไม่ได้เป็นหลักฐานว่าเป็นพวกเดียวกัน ตนรู้ก่อนจะมีการทำกิจกรรมพ่นสี 10 นาทีมั่นใจว่าตนเองไปรายงานสถานการณ์และไปสังเกตุการณ์ไม่ได้เข้าไปขัดขวางกระบวนของเจ้าหน้าที่ ตนถ่ายภาพอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีการนัดแนะกัน ก็ต้องดูว่าทางตำรวจมีพยานหลักฐาน ผมนัดแนะกับผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ แต่คิดว่าคงไม่มี เมื่อถามว่า ตำรวจมีกล้องวงจรปิดว่า เราไปถึงสถานที่ก่อน 10 นาที มีการพูดคุยกันก่อนก่อเหตุกล่าวว่ามีการคุยกันจริง แต่ไม่ใช่วันที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นวันที่ไปถ่ายกิจกรรมหยุดขัง
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ที่ตนทราบการจัดกิจกรรมพ่นสีนั้นก็ทราบมาจาก นายณัฐพล หรือเป้ “ที่ผ่านมาตนวางตัวชัดเจนว่า เรามาทำงาน วางตัวระดับหนึ่งแล้ว ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่า เรามาทำงานจริงๆ มั่นใจว่าเรามีเส้นแบ่งชัดเจน แต่คนที่มองเข้ามาอาจจะคิดไม่ตรงกับเราหรือเปล่า ก็ไม่อาจทราบได้ ”
เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่นายณัฐพล กล่าวว่า ในใจลึกๆ ก็คิดว่ามีส่วน เนื่องจากคดีที่โดนไม่น่าจะเกี่ยวกับตนเลย ไม่เคยคิดว่าจะโดนคดีเอง เพราะทุกทีเป็นคนทำข่าวเมื่อถามว่า ตอนจับกุมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่นาย
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า รู้สึกดีที่มีส่วนช่วยให้พ.ร.บ.อุ้มหายสำเร็จ เพราะตอนจับกุมเจ้าหน้าที่ย้ำเสมอว่า บันทึกภาพวิดีโอ และบอกว่าสามารถแจ้งทนายความได้
ด้านนายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวประชาไท กล่าวว่า ตนไม่มีคิดว่าหลักฐานของตำรวจแค่นั้น จะเอาตีความขยายว่ามีการร่วมกันกระทำการดังกล่าวได้ ซึ่งการสู้คดีก็ขอพูดคุยกับทนายความก่อน ยืนยันว่าเราไปทำข่าว ไม่ได้ไปสนับสนุนใดๆ ตนเองไม่ทราบถึงรายละเอียด รู้เพียงว่ามีการจัดกิจกรรม จึงขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ยืนยันในหลักการว่าเราไปเสนอข่าวในวันนั้นจริง
เมื่อถามว่าทราบข่าวจากไหนว่าจะมีกิจกรรมพ่นสีรั้ววัดพระแก้วนายณัฐพล เมฆโสภณ หรือเป้ กล่าวว่า อันนี้ขอปรึกษาทนายความก่อน ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ได้เมื่อถามว่า เกิดคดีนี้ขึ้น จะมีการทบทวนการทำงานหรือไม่นายณัฐพล เมฆโสภณ หรือเป้ กล่าวว่า คงจะทำงานเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องการทำงานอาจจะมีการคุยกันในกองข่าวถูกใจแสดงความคิดเห็น