รองโฆษก ตร. “ไม่ยืนยัน” แค่คุย 2 นาที เงินหายจากบัญชี ชี้ยังไม่พบผู้เสียหาย หากมีให้รีบแจ้งความ พร้อมนำโทรศัพท์มาด้วย
วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อ กรณี อดีต “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ออกมาเผยแพร่กับสื่อมวลชน ว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีเทคโนโลยีใหม่ในการดูดเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย เพียงการหลอกล่อให้ผู้เสียหายคุยโทรศัพท์ด้วย 2 นาทีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เสียหายกดลิงก์ หรือติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ นั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ยังไม่พบว่ามีแจ้งความร้องทุกข์ในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกรณีของการถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคารที่พบนั้น มีสาเหตุมาจากการถูกหลอกให้ส่งข้อมูลบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และ OTP หรือถูกหลอกให้กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล หรือแอปดูดเงิน เพื่อควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อแล้วถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารผ่านแอปธนาคารในโทรศัพท์จนเงินหมดบัญชี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเรียนมายังพี่น้องประชาชน ว่าอย่าตื่นตระหนกและวิตกกังวลกับกรณีดังกล่าว เพราะจากการตรวจสอบจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังไม่พบข้อมูลว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มีเทคโนโลยีในลักษณะดังกล่าว ประกอบกับยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ กรณีถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคาร จากการคุยโทรศัพท์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกิน 2 นาที ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจาก การคุยโทรศัพท์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกิน 2 นาที โดยไม่ได้มีการกดลิงก์กรอกข้อมูลส่วนบุคคลหรือรหัสผ่าน และไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล แล้วถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ให้รีบมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ท่านใช้งานมาด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจพิสูจน์ว่าคนร้ายใช้เทคโนโลยีใดในการก่อเหตุ เพื่อหาแนวทางการป้องกันต่อไป
สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง