เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้สั่งการตน และอธิบดีทุกกรม เร่งตรวจสอบระบบความปลอดภัยของข้อมูลพื้นฐานทุกกลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หลังจากที่ได้มาประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวง พม. และผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบความปลอดภัยข้อมูล เพื่อวางแผนร่วมกันในการวางระบบข้อมูลพื้นฐานทุกกลุ่มเป้าหมายให้มีความปลอดภัย
นายอนุกูล กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เราได้แจ้งความกับทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) แล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็น 2 ทาง คือ 1. ผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล และ 2. มาตรการป้องกันเชิงระบบเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเรื่องความปลอดภัยทางข้อมูล โดยให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสนับสนุน ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. ได้กำชับว่า การถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องที่อาจจะเป็นผู้เสียหายเป็นกลุ่มเปราะบางที่อาจรู้ไม่เท่าทัน และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก เป็นเรื่องที่กรมกิจการผู้สูงอายุ กำลังเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่ตรวจสอบข้อมูลของกระทรวง ดีอีเอส
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพี่น้องประชาชนที่มีผู้สูงอายุในครอบครัว และผู้สูงอายุเองที่อาจจะมีความเสี่ยงในเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจได้รับกระทบโดยตรง หรือเกิดความเสียหายขึ้นทันที หากถูกหลอกลวงให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปในทางที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย เราต้องใช้สติ มีความระมัดระวัง ในการตรวจสอบหากมีการโทรเข้ามา หรือไลน์เข้ามา อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่ามีการเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ ตนได้สั่งการอธิบดีทุกกรมแล้วว่าให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเป็นกระบวนการที่เราต้องดำเนินการ ในลักษณะคู่ขนาน มี 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวง ดีอีเอส และคณะกรรมการ โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ โดยต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา หากมีคนกระทำผิดเราต้องดำเนินการ
