“อนุทิน” ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวเหยื่อพลุระเบิดยันให้การช่วยเหลือเต็มที่ ลูกผู้เสียชีวิตอย่างน้อยให้ทุนเรียนจบ ป.ตรี – ส่วนโรงงานออกใบอนุญาตแบบปีต่อปี แต่การแก้กฎหมายไม่ได้ช่วยอะไร หากยังมีการทําผิดกฎระเบียบ ขอรอความชัดเจนจาก พฐ.
วันที่ 18 ม.ค.67 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ว่า ส่วนใหญ่ญาติยังอยู่ในสภาวะเศร้าโศกเสียใจ คนที่เป็นผู้ใหญ่จะดีหน่อย แต่ผู้ที่ต้องให้การการดูแลอย่างพิเศษคือกลุ่มเด็กๆ ที่ยังอยู่ในวัยเรียน ที่สูญเสียพ่อแม่ ซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษโดยตนกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ทำการแยกรายชื่อออกมา และให้การช่วยเหลือโดยเฉพาะทุนการศึกษา จากทางภาครัฐส่วนตัวหรือภาคเอกชน ขณะนี้มีอยู่ไม่เกิน 5 คน ซึ่งต้องช่วยเหลือโดยอย่างน้อยต้องได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรี
สำหรับมูลเหตุของการเกิดระเบิดครั้งนี้ ยังต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ เพราะต้องใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ ขออย่าเพิ่งไปพูดคาดเดาไปก่อน ซึ่งตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ยืนยันว่ามีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่จะตรวจสอบหาสาเหตุ ซึ่งต้องนำข้อมูหลายอย่างมาประกอบกัน
อย่างไรก็ตาม ขออย่าเพิ่งไปนึกถึงว่ามีการดำเนินคดีกับใครตอนนี้ เพราะเจ้าของกิจการที่เป็นนายจ้างก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งเราจะเน้นเรื่องการหาทางให้การช่วยเหลือญาติผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์นี้ ว่าผู้ที่เป็นลูกจ้างรายวันมาหาลำไพ่พิเศษ หมุนเวียนกันไปมาเพราะเป็นการจ้างแบบวันต่อวันไม่ใช่ในรูปแบบของบริษัท เมื่อมีงานก็เรียกกันมาทำ ฉะนั้นการขยายผลหาคนผิดก็ให้ดำเนินการไป แต่สิ่งที่ตนลงพื้นที่ก็เพื่อหาความช่วยเหลือ เช่น กระทรวงมหาดไทย ตำรวจช่วยอะไรได้บ้าง กระทรวงยุติธรรมจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่จากที่มีการประเมินมีความช่วยเหลือเข้ามา พร้อมกำชับผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดให้เข้ามาดูแลอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังทราบว่าผู้เคราะห์ร้าย จำนวนหนึ่งมีประกันภัย จึงขอเร่งรัดสินไหมทดแทนให้กับญาติโดยเร็วที่สุด
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต ตนได้เข้าไปดู และรับทราบจากแพทย์ทางด้านนิติเวช ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่าเสียชีวิตในทันทีจากแรงอัดระเบิด และมีการเบิร์นไหม้ในอัตราที่ค่อนข้างเยอะ สำหรับการเร่งชันสูตรศพที่มีจำนวนค่อนข้างมากเพื่อที่จะสามารถคืนร่างให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลให้เร็วที่สุดนั้น หากมีข้อมูลที่เพียงพอในการยืนยันอัตลักษณ์ก็ขอให้เร่งส่งคืนทางญาติ ไม่เช่นนั้นญาติพี่น้องก็จะต้องมามานั่งรออยู่ตรงนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดความหดหู่ และในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือกับปลัดกระทรวงฯ ว่าหากใช้โมเดลเดียวกันกับจังหวัดหนองบัวลำภู ก็สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในครึ่งวัน แต่เหตุการณ์อาจจะไม่เหมือนกันซึ่งก็จะพยายามดำเนินการให้เต็มที่
สำหรับแนวทางการแก้ไขกฎหมายในการออกใบอนุญาตของการประกอบกิจการในลักษณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมาพิจารณาดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หากส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการละเมิดกฎระเบียบ การแก้ไขกฎหมายก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก อาจจะต้องมีการเข้มเรื่องการออกใบอนุญาต แต่ทุกอย่างก็ทำตามกฏหมายและการออกใบอนุญาตเป็นในลักษณะของปีต่อปี ต้องมีใบอนุญาตจากหลายหน่วยงานไม่ใช่กระทรวงมหาดไทยจะออกได้อย่างเดียว และในใบอนุญาตจะมีข้อปฏิบัติรวมถึงข้อไม่พึงปฏิบัติมากมาย ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องดูที่สาเหตุ ว่ามาจากอะไร แต่ตนเชื่อว่าคงไม่ได้ทำตามมาตรฐานความปลอดภัย 100% เพราะดูจากสภาพการระเบิดต้องมีสาเหตุจึงจะเกิดการปะทุได้ เช่น อากาศร้อนทำให้เกิดการปะทุได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่น่าใช่ หรืออาจจะมีของตกหล่นเกิดประกายไฟ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถพูดไปก่อนได้ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ โดยเฉพาะหากเกิดจากการกระทำที่ผิดหลักปฏิบัติของกฎหมายก็ต้องมีการพิจารณาดู
ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวนี้เคยเกิดเหตุระเบิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2565 อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเหมือนผับบาร์ที่มีการไปจับในตอนนี้ ซึ่งต้องมีข้อห้ามว่าสถานที่นี้ห้ามทำอีกต่อไป แต่ทั้งหมดต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นความผิดโดยเหตุสุดวิสัย หรือผิดโดยการกระทำที่ฝ่าฝืน และใบอนุญาตดังกล่าวนี้ตนได้มีการสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งให้ข้อมูลว่าเป็นการออกในระดับอำเภอมีเอกสารมาครบก็สามารถออกใบอนุญาตได้ และเป็นการออกออกแบบปีต่อปี ซึ่งตนไม่อยากไปขัดขวางการทำมาหากินของชาวบ้าน หากดูสภาพแรงงานพื้นฐานยังทำตามกฎระเบียบ เพราะอยู่ในที่ห่างไกลชุมชนอยู่กลางทุ่งนา ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นตัวไขปัญหาและคำถามที่เกิดขึ้นคือต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่ามูลเหตุการเกิดเหตุครั้งนี้มาจากอะไร ทั้งนี้หากทำตามกฏหมายของบ้านเมือง ส่วนที่มีคำถามว่าจะเปิดให้มีกิจการประเภทนี้อีกหรือไม่นั้น ต้องถามกลับว่าเป็นวิถีชีวิตของเขาหรือไม่ บางคนทำพลุทำดอกไม้ไฟ นำไปไล่นกหรือขายในงานรื่นเริงรวมถึงพิธีกรรมต่างๆก็ถือเป็นวิถีชีวิตของพวกเขา แต่ต้องดูว่าได้มีการทำตามกฏหมายหรือไม่ ทั้งยังมีธุรกิจอื่นๆที่ก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นเดียวกันหากไม่ทำตามข้อกำหนด
ด้าน นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ นำคณะประกอบด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ปภ.จังหวัดฯ สาธารณสุขจังหวัดฯ พม.จังหวัดฯ อบต.ศาลาขาว มูลนิธิกู้ภัยฯ ได้ลงพื้นที่หลังควบคุมเพลิงได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่เกิดเหตุ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพร้อมเก็บร่างและเศษชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิตทั้งหมด จังหวัดสุพรรณบุรี ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย (เหตุพลุระเบิด)ที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรบุรี (ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กม.)
การช่วยเหลือเบื้องต้น ได้ให้ญาติผู้เสียชีวิตแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมตรวจ DNA เพื่อยืนยันตัวบุคคลเพื่อใช้ในการยื่นขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ รายละ 10,000 บาท เงินจากกองทุนยุติธรรมเยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 200,000 บาท กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ครอบครัวละ 3,000 บาท ค่าทำศพรายละ 10,000 บาท สำนักนายกรัฐมนตรี ค่าจัดทำศพ 50,000 บาท กรณีมีบุตรที่กำลังศึกษา ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50,000 บาท กองทุนเลี้ยงชีพ 30,000.-บาท โดยรวมแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตประมาณ 3 แสนบาท
ขณะที่การช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงทยอยให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง อาทิ การมอบถุงยังชีพ การเยียวยาจิตใจ จากกรมสุขภาพจิต สำนักสาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากกระทรวงยุติธรรม นักสังคมสงเคราะห์กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขณะที่ทางจังหวัดขอความร่วมมือสื่อมวลชนหลีกเลี่ยงการสัมภาษณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการตอกย้ำความสูญเสีย และกระทบต่อจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้โทรศัพท์ทางไกลจากสหพันธรัฐสวิซฯ แสดงเสียใจต่อเหตุการณ์พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยเร่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด