ตัวแทนลุงแซม หารือ โฆษกกลาโหมไทย เตรียมความพร้อมซ้อมรบร่วม “คอบร้า โกดล์ 2024” ดีเดย์ยกพลขึ้นบก 27 กพ.นี้ เน้นสู้สงครามไซเบอร์และอวกาศเพื่อประโยชน์ของประชาชนภูมิภาค “บิ๊กทิน” พร้อมส่ง ซอฟพาวเวอร์ “มวยไทย” เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก มั่นใจฝึกร่วมยุคใหม่ ประเทศไทยได้อะไรมากกว่าเดิมเยอะ
นายคริสโตเฟอร์ เฮลม์แคมป์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พันโทอลัน โอลิเวอร์เจ้าหน้าที่นโนบายและแผน จัสแมกไทยกองทัพบกสหรัฐฯ นางสาวแชนน่า คัมมิ่งส์ เลขานุการเอกหัวหน้าหน่วยกิจการทางการเมือง- การทหารฯ พร้อมคณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯประจำประเทศไทย (JUSMAG ) เดินทางมายังกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือในการเตรียมความพร้อม ในการสื่อสารทำความเข้าใจให้กับประชาชนในการจัดฝึกประจำปีของกองทัพ ไทย – สหรัฐ หรือ “คอบร้า โกลด์ 2024” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ในพื้นที่ กองทัพเรือจังหวัดชลบุรี -ระยอง และ จังหวัดอื่นๆตามที่ กองทัพกำหนด โดยมีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมืองให้การต้อนรับ
นายจิรายุกล่าวว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ ปี 2024 ในเดือนหน้านี้จะมีการฝึกเพื่อเพิ่ม ศักยภาพด้านการบรรเทาสาธารณภัยเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดภัยธรรมชาติในภูมิภาค และจะเน้นการฝึกต่อต้านภัยคุกคามด้านสงคราม ไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นปัญหาไปทั่วโลกทั้งทางด้านสังคมเศรษฐกิจและความมั่นคงของแต่ละประเทศ
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ 24 ในครั้งนี้จะมีการฝึกด้านอวกาศเพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบ จากปรากฏการณ์ทางอวกาศ ที่มีผลต่อการปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงกลาโหมมีกรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศและศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศ ของกองทัพอากาศ ในการฝึกร่วมในครั้งนี้
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดร.สุทิน คลังแสง ได้ให้แนวทางในการฝึกครั้งนี้ไว้ว่านอกจากการฝึกทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ในรูปแบบต่างๆแล้ว ในส่วนของไทยจะพลักดันในเรื่องการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม (ซอฟต์พาวเวอร์) แทรกเข้าไปในการฝึก เช่นยุทธวิธีการต่อสู้ด้วยมวยไทย และอื่นๆที่เป็นประโยชน์ ในการการฝึกยุคใหม่ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เข้าไปอยู่ในส่วนหนึ่งกิจกรรมการฝึก คอบร้าโกลด์ 2024 อีกด้วยซึ่งปีนี้ ประเทศไทยจะได้อะไรมากกว่าเดิมเยอะ” นายจิรายุ กล่าว
สำหรับการฝึกคอบร้าโกลด์ พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานี้ มีบุคลากรทางทหารประมาณ 6,500 นายจาก 30 ประเทศเข้าร่วมฝึก และ สังเกตการณ์ โดยการฝึกกลับไปมีขนาดเทียบเท่ากับก่อนเกิดโรคระบาด โควิด เมื่อปี 2564-2565 โดยการฝึกได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่มีต่อ อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง “เรากลับไปดำเนินการฝึก ‘คอบร้าโกลด์แบบเดิม’ อย่างแน่นอน” พ.อ. เคิร์ต เลฟฟ์เลอร์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และหัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางทหารร่วมสหรัฐฯ กล่าว
การฝึกคอบร้าโกลด์ครั้งที่ 42 ในปี 2566 ที่ผ่านมานั้น ไทยและสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพเป็นประจำทุกปี ถือเป็นหนึ่งในการฝึกทางทหารพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดและดำเนินการมาอย่างยาวนานที่สุดในโลก การฝึกซ้อม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาประกอบด้วยการฝึกภาคสนามและการฝึกสั่งการ ประสานงาน ร่วมทั้ง การบัญชาการในสงครามไซเบอร์ และการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และ การรับมือภัยพิบัติ ตลอดจนโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆในไทย มีรายงานว่า มีทหารจากอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เข้าร่วมฝึกหรือ สังเกตการณ์ อาทิ ประเทศออสเตรเลียและอินเดีย อีกด้วย
คอบร้าโกลด์ ในปีที่แล้ว พ.ศ. 2565 ถูกลดขนาดลงเนื่องจากโรคระบาด ประกอบด้วยทหารไทย 1,953 นาย และบุคลากรสหรัฐ 1,296 นาย พร้อมด้วยทหาร 50 นายจากสิงคโปร์, 41 นายจากเกาหลีใต้, 36 นายจากมาเลเซีย, 35 นายจากญี่ปุ่น และ 16 นายจากอินโดนีเซีย ตลอดจนผู้สังเกตการณ์ 18 นาย จากออสเตรเลีย และอีก 5 คนจากอินเดีย
