12 ม.ค. 67 เวลา 16.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายศาสตรา ศรีปาน รองประธานคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนบริดจ์ ) พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกกมธ.แถลงสรุปผลการพิจารณาศึกษา ชี้จะเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ประชาชนแค่กังวลเรื่องที่ดิน-เยียวยา แต่ไม่คัดค้าน
น.ส.ธีรรัตร์ กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติตั้งคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งกำหนดระยะเวลาในการศึกษาไว้ 90 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 66 ถึง 18 ม.ค.67 ทั้งนี้คณะกมธ.ได้เดินทางไปศึกษาดูงานและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันเสาร์ที่ 6 ม.ค. 67 และวันอาทิตย์ที่ 7 ม.ค. 67 ณ จังหวัดชุมพรและจังหวัดระนองที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ทำให้ได้ทราบความต้องการและข้อกังวลของประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสิทธิครอบครองที่ดิน และการเยียวยาเมื่อเกิดโครงการดังกล่าว แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้คัดค้านในการดำเนินการ ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์ภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้นี้ จะเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดนักลงทุนต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้มาลงทุนยังเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมรองรับการลงทุนต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
หากมีการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ก็จะมีการจ้างงานคนในพื้นที่ และจะทำให้เศรษฐกิจทางภาคใต้ และเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมดีขึ้น ตลอดจนการทำให้ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) เติบโตตามมา รวมทั้งสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
โดยการประชุมในวันนี้ คณะกมธ.ได้มีการประชุม เป็นนัดสุดท้ายเพื่อลงมติรับรองรายงานของคณะกมธ.ฉบับสมบูรณ์ โดยมติที่ประชุม เห็นชอบต่อรายงานของคณะกมธ. 20 เสียง /ไม่เห็นชอบ 2 เสียง ถือว่าเป็นมติเอกฉันท์ ต่อจากนี้ไป จะนำรายงานเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับทราบรายงาน และลงมติเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ด้านนายศาสตรา ศรีปาน กล่าวว่า คณะ กมธ. ได้ประชุมพิจารณากันอย่างรอบคอบ โดยได้เชิญหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจงต่อคณะกมธ. เพื่อรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดลงในรายงาน ซึ่งประชาชนทางภาคใต้รอคอยโครงการดังกล่าว เพื่อความหวังในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ โดยโครงการนี้จะทำให้ประชาชนดำรงชีวิตร่วมกับโครงการแลนด์บริดจ์ได้อย่างราบรื่นสมดุลต่อไป
