ป.ป.ส.แถลงรับตัวนักค้ายาเสพติด ค่าหัว 1ล้านบาท จากสปป.ลาว ยึดทรัพย์กว่า4พันล้าน

411

วันที่ 11 ม.ค.67 ที่ ป.ป.ส. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมผู้แทนจาก บช.ปส. และ หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) ร่วมแถลงการรับตัวนายนายอ่อง กิม วาห์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำมาดำเนินคดีในไทย หลังผู้ต้องหาถูกทางการ สปป.ลาวจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 28-29 ธ.ค.ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า สำหรับนายอ่อง กิมวาห์ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาตั้งแต่ปี 2549 กระทั่งพบข้อมูลว่า นายออง กิม วาห์ มีหน้าที่เป็นผู้จัดหาและติดต่อประสานงาน ระหว่างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงินและเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน ออสเตรเลีย

ปี 2561 ถึงปัจจุบัน เครือข่ายของนายอองกิมวาถูกจับกุมไปแล้ว 35 คน ซึ่งคดีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซียพร้อมยึดไอซ์ 4.4 ตันเฮโรอีนเกือบ 500 กิโลกรัมและโคเคน 12 ตัน และยึดสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์กว่า 320 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 418 ล้านริงกิตมาเลเซียหรือเป็นเงินไทยกว่า 4 พันล้านบาท และกำลังดำเนินการตรวจยึดบริษัทของบุคคลในเครือข่ายอีก 8 แห่งต่อไป

สำหรับคดีการก่อเหตุในประเทศไทยจนนำไปสู่การออกหมายจับนายอ่อง กิม วาห์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ได้บุกจับผู้ต้องหา 7 คน พร้อมยึดไอซ์ 998 กิโลกรัม ที่ จ.ราชบุรี ต่อมาสืบสวนและขยายผลจนทราบว่า นาย อ่อง กิม วาห์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จึงได้มีการขอให้ศาลอนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 แต่นายอ่อง กิม วาห์ ได้หลบหนีไปประเทศลาว

กระทั่งเมื่อ วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้บุกตรวจค้นสถานที่ 8 แห่ง ใน 4 จังหวัด คือ กทม. จ.ตราด จ.เชียงราย และ จ.ชลบุรี ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายอ่อย กิม วาห์ ทำการยึดอายัดทรัพย์สิน เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง คอนโดมิเนียม 2 ห้อง เรือยอร์ช 3 ลำ รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก อาวุธปืนยาว 2 กระบอก เงินสด 275,000 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคาร 10 บัญชี ยอดเงิน 1,542,080 บาท และทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่ากว่า 85 ล้านบาท

พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า การจับกลุ่มในครั้งนี้เป็นสัญญาณดีที่แต่ละประเทศร่วมมือกันปราบปรามยาเสพติด ประเทศไทยมีมีความยินดีในการเป็นแกนกลางเพื่อประสานความร่วมมือ เช่นนี้ในการปรับปราบยาเสพติดในภูมิภาค ขอบคุณหน่วยงานจากต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ที่ร่วมสนับสนุนข้อมูลการข่าวซึ่งไทยและหน่วยงานระดับนานาชาติจะร่วมมือกันเพื่อขยายผลยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดและนำผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษให้มากที่สุดต่อไป

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ปปส #ยาเสพติด