ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพสุจริตแต่ตกเป็นทาสเจ้าหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยโหด คงวางใจได้เปลาะหนึ่ง ที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน วางนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหดไว้อันดับต้นๆ

ล่าสุด คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเงิน 4,500 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการแก้หนี้นอกระบบแบบบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 การลงทะเบียน ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 กระทรวงมหาดไทยเป็นตัวหลัก มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยเสริม ขั้นตอนที่ 2 ดำเนินการไกล่เกลี่ยและติดตามผล และขั้นตอนที่ 3 กำหนดระยะเวลาดำเนินการเป้าหมายและตัวชี้วัดต้องชัดเจน
”การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ กรมการปกครอง เป็นเจ้าภาพหลัก สำนักอัยการสูงสุดร่วมสนับสนุน ตั้งแต่เริ่มและปิดลงทะเบียน 18 ธันวาคม มีลูกหนี้ลงทะเบียน 99,484 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 5,926 ล้านบาท ระหว่างลงทะเบียนมีการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ไปแล้ว 20 ราย”นายอนุทินระบุและว่าการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยหลักมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ช่วยเหลือ จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติกรรมใช้กำลังประทุษร้ายลูกหนี้ การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน กระทรวงการคลังจะเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับสถาบันทางการเงินของรัฐ ปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขน้อย และอาจจะมีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น
“ที่ประชุมเห็นชอบตัวชี้วัดทั้ง 3 ด้าน ตัวชี้วัดการไกล่เกลี่ยทำให้ได้อย่างน้อยร้อย 80 ของลูกหนี้และเจ้าหนี้ตามฐานข้อมูล ให้ตกลงกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 การบังคับใช้กฎหมาย ให้สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดร้อยละ 70 ของเรื่องรับดำเนินการต้องเสร็จภายใน 3 เดือน”
นายอนุทินบอกและว่าด้านการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินโดยธนาคารออมสินและธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือร้อยละ 70 ของผู้ลงทะเบียน ดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารรัฐมีเงื่อนไขน้อย”นายอนุทินระบุแล้ว่าจะกำหนดไทม์ไลน์และตัวชี้วัดชัดเจน รวมถึงตั้งคณะอนุกรรมการชุดที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานขึ้นมาขับเคลื่อนและติดตามการทำงาน
เมื่อมองบริบทโดยรวมจะเห็นความตั้งใจของรัฐบาลเศรษฐาที่ต้องการแก้หนี้นอกระบบให้หมดไป
แต่เมื่อส่องดูข้อมูลการลงทะเบียนมีกว่า 9 หมื่นราย มูลหนี้กว่า 5พันล้าน ทำให้ชวนสงสัยว่าเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เพราะในหลายรัฐบาลที่ผ่านมามีการประเมินว่ามีหนี้นอกระบบนับหมื่นล้านบาทและตัวเลขลูกหนี้น่าจะมากกว่านี้
จึงไม่แน่ใจว่าลูกหนี้บางส่วนไม่กล้ามาลงทะเบียนเพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้หรือไม่ ?
ในช่วงที่เปิดให้ลูกหนี้ขึ้นทะเบียนมีแก๊งทวงหนี้ยังเหิมเกริมไปบุกทวงหนี้และพังร้าน รวมถึงบุกไปด่าทอและน้ำขยะไปเททิ้งหน้าบ้านลูกหนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวพอสะท้อนว่าแก๊งทวงหนี้โหดยังดำรงอยู่เพียงแต่เจ้าหนี้หรือนายทุนใหญ่อาจจะสั่งให้ยุติบทบาทก่อน
เพราะต่างทราบกันดีในแวดวงแก๊งปล่อยเงินกู้
ดอกเบี้ยโหดตั้งแต่ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์และหลายพื้นที่ในภาพเหนือ ล้วนแต่อยู่ใต้ปีกของบิ๊กการเมืองบางคน ชาวบ้านในจังหวัดดังกล่าวต่างทราบดีว่าคือใคร
บิ๊กตำรวจคนหนึ่งเล่าว่าช่วงเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เดินทางไปรับตำแหน่งไม่ถึงสัปดาห์ สั่งให้ตำรวจจับกุมแก๊งทวงหนี้ดอกเบี้ยโหด เพียงชั่วข้ามคืนผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าโทรฯมาบอกว่าแก๊งทวงหนี้ให้หรี่ตาบ้าง เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าซุกใต้ปีกใคร
“แต่โชคดีที่ลงบันทึกประจำวันและตำรวจทั้งจังหวัดรับรู้แล้ว จึงดำเนินคดีไปตามระเบียบ แต่ได้ประกาศให้ตำรวจทั้งจังหวัดรู้ว่าหากมีการทวงหนี้โหดให้จับกุมทุกกรณี แก๊งทวงหนี้เบาบางลง แต่ได้รับโทรศัพท์จากผู้บังคับบัญชาอีกว่ามีปัจจัยให้หรี่ตาบ้างนะ แต่ยังไม่ทันหรี่ตาถูกย้ายเสียก่อน”บิ๊กตำรวจระบุ
นี่คือความจริงอีกมุมหนึ่งที่พอสะท้อนว่าแก๊งทวงหนี้และเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดนั้นฝังรากลึกแผ่สาขาแจกเศษเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐเกือบทุกระดับ
ดังนั้นภาพที่เห็นลูกหนี้เข้าคิวลงทะเบียนอาจจะเป็นลูกหนี้ที่กู้เงินจากเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้ด้วยตัวเองไม่อิงแอบกลุ่มผู้มีอิทธิพลก็เป็นได้ เพราะมีข่าวสะพัดในหลายพื้นที่ว่ามีบิ๊กการเมืองบางคนสั่งให้เจ้าหนี้หยุดทำการทวงหนี้ไปก่อน เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลที่พรรคสังกัดร่วมวงอยู่ด้วย
ข้อเท็จจริงเป็นประการใดสุดคาดเดาเพราะเป็นเพียงข่าวลือ แต่เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือข่าวลือ ต้องจับตาการแก้หนี้ของรัฐบาลเป็นพิเศษว่า เมื่อผ่านพ้นห้วงเวลาที่การแก้หนี้นอกระบบไปแล้ว ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทุกคนได้รับการช่วยเหลือจนหมดหนี้แล้ว จะมีแก๊งทวงหนี้โหดโผล่มาปฏิบัติการอีกหรือไม่ ?
ถ้าไม่มีก็อนุมานได้ว่าเป็นข่าวลือ แต่ถ้ามี ข่าวลือคือข่าวจริง ที่สำคัญพวกแก๊งทวงหนี้และเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด จะเป็นดัชนีวัดว่านโยบายแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลล้มเหลว !!!


