ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบก กลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 31 ณ สนามยิงปืนทางยุทธวิธี กองทัพบก ศูนย์การทหารราบ
วันนี้ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.15 น. พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 31 ประจำปี 2566 (31st ASEAN Armies Rifle Meet – AARM 2023) ณ สนามยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบก ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งปีนี้กองทัพบกไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการทดสอบ โดยผู้บัญชาการทหารบกมีดำริให้ลดรูปแบบที่เป็นการแข่งขันลงแต่มุ่งเน้นเรื่องความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่พิธีปิดอย่างเป็นทางการ ผู้บัญชาการทหารบกได้ทดสอบยิงปืน ประเภทปืนพก ร่วมกับผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน หรือที่เรียกว่า Novelty Shoot ซึ่งถือเป็นกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างคณะผู้บังคับบัญชากองทัพบก กลุ่มประเทศอาเซียน
นอกจากนี้ ภายในงานกองทัพบกไทยในฐานะเจ้าภาพยังได้จัดการแสดงชุดพิเศษที่ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมไทยที่ทรงคุณค่า แบ่งการแสดงเป็น 2 องก์ ประกอบด้วย องก์ที่ 1 “ความกล้าแห่งอดีตกาล” ได้แก่ “การแสดงคล้องช้าง” ซึ่งถือเป็นศิลปศาสตร์โบราณในการสรรหาช้างเพื่อประดับพระบารมีแก่พระมหากษัตริย์ไทยทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในยามศึกสงคราม การแสดง “ศาสตราวุธและการฝึกฝนเชี่ยวชาญเชิงยุทธ” ด้วยตำราพิชัยสงครามซึ่งเป็นตำราที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการป้องกันและการสู้รบตั้งแต่สมัยอยุธยา และ”การแสดงการจัดขบวนทัพพยุหยาตราและระบำฉลองชัย” ซึ่งเป็นการยกย่องสรรเสริญทหารกล้า การแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ และองก์ที่ 2 “การพัฒนาสู่อนาคต” ได้แก่ การแสดง “สยามอัศวานึก” เป็นการนำเสนอบทบาทของกองทหารม้าซึ่งเป็นหน่วยรบที่ห้าวหาญ และ มียุทธวิธีการรบที่เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่กับกองทัพบกไทยมาอย่างช้านาน มีการพัฒนายุทธวิธีและยุทโธปกรณ์ให้ก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลาจวบจนปัจจุบัน และ การแสดง “Power of ASEAN” เป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกชาติในประชาคมอาเซียนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งนำไปสู่บทบาทในเวทีโลก
โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้กระทำพิธีส่งมอบความรับผิดชอบการจัดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบก กลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 32 ปี 2567 แก่ผู้บัญชาการทหารบกฟิลิปปินส์ในฐานะเจ้าภาพปีต่อไป นับเป็นความภาคภูมิใจ และน่ายินดีอย่างยิ่งที่กองทัพบกจากประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้พบปะและร่วมกิจกรรมทางทหารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ และมิตรภาพของอาเซียนให้แน่นแฟ้น ซึ่งผู้แทนกองทัพชาติอาเซียนจะได้นำประสบการณ์ที่ได้รับครั้งนี้ไปพัฒนาขีดความสามารถและปรับใช้ในภารกิจทางทหารต่อไปเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาคอาเซียน
