ผบช.น.ชี้ มือยิง”ครูเจี้ยบ”พฤติกรรมคล้ายมือปืนในคราบ นศ.มีคนสั่งการให้ลงมือ !!

1010

ผบช.น.1 ยัน คนร้ายก่อเหตุยิงคู่อริต่างสถาบัน มีพฤติกรรมคล้ายมือปืนในคราบนักศึกษา ได้รับคำแนะนำให้ก่อเหตุ รู้เท่าทันการทำงานของตำรวจ พบรู้กลุ่มผู้ต้องสงสัย จากผลตรวจดีเอ็นเอคนร้าย อยู่ระหว่างเปรียบเทียบประวัติอาชญากร

วันที่ 15 พ.ย.66 ที่ บช.น.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนา  ชูวงศ์  รอง ผบ.ตร. / พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดคลี่คลายคดี2คนร้ายยิงคู่อริต่างสถาบัน พลาดโดนครูเจี๊ยบเสียชีวิต และนักศึกษาอุเทนถวายได้รับบาดเจ็บ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี รวมถึงเพื่อรับฟังแนวความคิดและแนวทางปฏิบัติของบช.น.ในการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

  โดยพล.ต.อ.ธนา บอกว่า คดีของครูเจี๊ยบ ทำให้พอรู้กลุ่มผู้ต้องสงสัยและมีผลตรวจดีเอ็นเอของคนร้าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ เพื่อนำไปเปรียบเทียบประวัติอาชญากร เพื่อให้ความเป็นธรรมและทำให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งหลักฐานที่บ่งชี้ ว่า2คนนี้เป็นคนก่อเหตุนั้นยังไม่ขอตอบ เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนคนที่ช่วยหลบหนี ก็ยังไม่ขอตอบเช่นกัน เพราะเป็นรายละเอียดอยู่ในสำนวน ทั้งนี้ การหลบหนีนั้น ผู้ก่อเหตุเขาไปได้ตลอด เพราะยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา และยังไม่ได้ออกหมายจับ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ บอกว่า คดีนี้เราทำเต็มที่อยู่แล้ว ความคืบหน้าทางคดีมีข้อมูลที่เห็นร่องรอยคนรัาย และสามารถถพิสูจน์ทราบบุคคลแต่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จึงยังไม่มีการออกหมายจับ และคนร้ายวางแผนมาอย่างดี แบบเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งการจัดหายานพาหนะ เส้นทางหลบหนี รวมถึงที่พักคอย จุดที่ต้องเปลี่ยน จุดลงมือ มีการตระเตรียม จึงต้องใช้เวลาในการสืบสวน ไม่ใช่นักศึกษาทั่วไป เพราะพฤติกรรมคล้ายคนที่เป็นมือปืน แต่อยู่ในบทบาทนักศึกษา ที่ได้รับคำแนะนำมาและได้นำแผนปทุษกรรมเก่าทั้งหมดมาดู ตั้งแต่ก.พ.2565 พบว่า มีความเชื่อมโยงกันของแผนปทุษกรรมของกลุ่มที่เคยก่อเหตุในอดีต แต่คนร้ายที่ลงมือ ไม่ได้กระทำการโดยลำพัง และมองว่า เป็นการกระทำในลักษณะกลุ่มบุคคล ส่วนจะมีอาชีพหรือไม่อาชีพ จะเป็นศิษย์เก่าหรือศิษย์ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ และบอกไม่ได้ว่ามีกี่คน ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุต้องรอให้ได้ข้อมูลและได้ตัวคนร้ายมากกว่านี้

ทั้งนี้ ไม่อยากพาดพิงถึงสถาบันว่าเป็นการปลูกฝังจากองค์กรหรือไม่ แต่ยืนยันกลุ่มนี้มีเจตนาประสงค์ต่อชีวิตคนคนหนึ่งในคดีอาญาแน่นอน ยืนยันว่า มีโอกาสที่จะได้ตัวมา และขอใช้คำว่า คนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีพัฒนาการในการลบหนี มีการลบร่องรอย ลบพยานหลักฐานเกือบทุกขั้นตอน ไม่เหมือนคนปกติ พฤติกรรมนี้ และรู้เท่าทันการทำงานของตำรวจ  คล้ายๆจะเป็นกลุ่มก้อนอาชญากรรม  ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความรู้ในการวางแผน ลงมือกระทำ ไม่ใช่ลักษณะของบุคคลที่จะคิดและทำได้โดยลำพัง และหากยังอยู่ในสถานะภาพแบบนี้การก่อเหตุและเกิดอันตรายไปอีก ดังนั้นจึงต้องมีวิธีการที่ปราบปรามให้ชัดเจนกว่านี้ และถ้าจะทำให้สังคมดีขึ้นควรมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย เนื่องจากตำรวจเพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

โดยการแก้ไขปัญหา มองว่า ควรต้องมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน โดยไม่ใช่ด่อเหตุแล้วจะให้ตำรวจไปจับคนร้ายเพียงอย่างเดียว เพราะ ผู้ก่อเหตุไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่สองสถาบัน แต่มีลักษณะเหมือนหลายองค์กร ซึ่งการทำง่นของตำรวจจะต้องมีการข่าวที่แต่ชัดว่าใครกระทำความผิด แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะทำได้เพราะยังไม่ใช่ผู้ต้องหา

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์