รวบเครือข่ายยาเสพติดย่านพุทธมณฑล ยึดยาบ้า3ล้านเม็ด

403

สืบสวนนครบาล  “รวบเครือข่ายยาเสพติดย่านพุทธมณฑล” ยาบ้า 3 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ 24 ก.ก., ยาอี 9,000 เม็ด

กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ รอง ผบก.น.8 รรท.ผบก.น.6, พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ต.ปัณณวัชร์ จิรัฐธรรมฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการยาเสพติด กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ทำการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ จึงได้ทำการจับกุมตัว

ผู้ถูกจับกุม นายต้นฯ  อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และ นายณรงค์เกียรติฯ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

พร้อมด้วยของกลาง จำนวนมาก อาทิ อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน 1 แม็ก (บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด), ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมประมาณ 3,080,000 เม็ด ,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 24 กิโลกรัม ,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) รวมประมาณ 9,000 เม็ด และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า,ยาไอซ์และยาอี) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 1 เพิ่มเติมว่า   “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร” สถานที่จับกุม  บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 64/22 หมู่บ้านกิตติชัย 12 ม.2 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนผู้ค้ายาเสพติดทางสื่อออนไลน์ จนสามารถจับกุมนายเอกรัตน์ฯ ผู้ค้ายาเสพติดโดยการโพสต์ขายทางทวิตเตอร์  ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ได้สืบสวนขยายผลจับกุมตัวนายกิติพงศ์ฯ, นายสมศักดิ์ฯ กับพวกรวม 4 คน ผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายฝั่งธน ได้ของกลางยาบ้า 228,800 เม็ด, ยาไอซ์ 33 กก., เคตามีน 36 กก., เฮโรอีน 1 กก. จึงได้ทำการขยายผลจากนายกิติพงศ์ฯ ผู้ต้องหา ได้มารับยาเสพติดที่บริเวณในเขตพื้นที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวน เฝ้าสะกดรอย ติดตามพิสูจน์ทราบตัวบุคคลคือนายต้นฯ และนายณรงค์เกียรติฯ ที่นำยาเสพติดมาส่งให้ นายกิติพงศ์ฯ และทราบสถานที่เก็บยาเสพติดอยู่ที่ย่านพุทธมณฑล

ล่าสุด  วันนี้ 9 พ.ย.66 เวลาประมาณ 00.45 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 64/22 หมู่บ้านกิตติชัย 12 ม.2 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักที่ใช้ในการเก็บยาเสพติด ได้มีนายต้นฯ และนายณรงค์เกียรติฯ  โดยมีนายณรงค์เกียรติฯ ถือถุงพลาสติกอยู่บริเวณหน้าบ้านพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมแม็กกาซีน บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด (ของกลางรายการที่ 1) อยู่ที่บริเวณเอวด้านหน้าของนายต้นฯ พบโทรศัพท์มือถือ (ของกลางรายการที่ 5) อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าขวาของนายต้นฯ สวมใส่อยู่ และพบโทรศัพท์มือถือ (ของกลางรายการที่5) อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าซ้ายของนายณรงค์เกียรติฯ สวมใส่อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสอบถามนายต้นฯ และนายณรงค์เกียรติฯ ให้การยอมรับว่าบริเวณภายในบ้านพักดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านพักที่ตนได้เช่าเอาไว้ มียาเสพติดจำนวนหลายรายการซุกซ่อนอยู่ จึงได้สมัครใจและยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 64/22 หมู่บ้านกิตติชัย 12  ผลการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า ยาไอซ์และยาอี ดังกล่าวข้างต้น วางอยู่ที่พื้นบริเวณชั้น 1 สอบถามผู้ถูกจับทั้งสอง ให้การยอมรับว่าของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบนั้นเป็นของตนจริง โดยตนมีหน้าที่ในการนำยาเสพติดมาเก็บไว้ในบ้านพัก และมีหน้าที่ในการรับคำสั่งจากผู้ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อว่า “ตะเวน แสวงหา” พักอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นผู้สั่งการให้นำยาเสพติดออกไปส่งให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อ โดยจะได้รับค่าจ้างคนละประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน สำหรับเงินค่าจ้างที่ได้ ได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิ์และรวบรวมของกลาง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

บช.น. ขอเรียนประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย ในพื้นที่หรือในโซเชียลมีเดีย โปรดแจ้งสายด่วน191หรือสถานีตำรวจท้องที่

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์