ประธานฯ ก.พ.ค.ตร.ประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือก 7 กรรมการผู้พิทักษ์คุณธรรมฯตำรวจ มี อดีต ผบ.ตร. “พล.ต.อ.วิเชียร” พร้อมอดีตมือฉมังด้านกฎหมายอีก 6 นาย
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะประธานกรรมการคัดเลือกกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ได้มีใจความรับุว่า
ประกาศคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการ ก.พ.ค.ตร. เรื่อง รายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการ ก.พ.ค.ตร. ได้มีประกาศลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เรื่อง รับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการ ก.พ.ค.ตร.พ.ศ. 2566 นั้น
บัดนี้ คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการ ก.พ.ค.ตร. ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคล เป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. ตามมาตรา 35 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. และบุคคลสำรองดังนี้
ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. จำนวนเจ็ดคน โดยเรียงตามลำดับ
1.นายธวัชชัยไทยเขียว ,2.พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉั้วน ,3.พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ,4.นายวันชาติ สันติกุญชร,5.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี,6.พล.ต.อ. อำนาจ อันอาตม์งาม 7.นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์
สำหรับผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นบุคคลสำรอง จำนวนสามคน โดยเรียงตามลำดับผลคะแนน การสอบสัมภาษณ์ 1.พล.ต.ท. เสถียร คูวิบูลย์ศิลป์ 2.พล.ต.อ. ชัยยง กีรติขจร 3.พล.ต.ท. ชยุต ธนทวีรัชต์
ทั้งนี้ หากผู้ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติ ไว้ในมาตรา 24 วรรคหนึ่ง (10) หรือมาตรา 36(1) (2) (3) หรือ (4 ) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ผู้นั้นจะต้องลาออกจากการเป็นบุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้ามหรือแสดงหลักฐาน ให้เป็นที่เชื่อได้ว่าตนได้เลิกการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพหรือการประกอบการอันมีลักษณะต้องห้ามตังกล่าวต่อผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ก.พ.ค.ตร.ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับการคัดเลือก ในกรณีที่ผู้ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร.มิได้ลาออกหรือเลิกการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพหรือการประกอบการอันมีลักษณะต้องห้ามภายในเวลา ที่กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นมิเคยได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. และให้ถือว่าผู้ที่ได้รับเลือกเป็น บุคคลสำรองตามลำดับเป็นผู้ได้รับเลือกแทน ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566 “ประกาศดังกล่าว ระบุ”
สำหรับคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.เป็นคณะกรรมการชุดใหม่ที่ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ฉบับปัจจุบัน ที่มีอำนาจรับเรื่องร้องเรียนจากตำรวจทุกระดับทั่วประเทศ ที่เห็นว่าตนเองถูกผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติต่อตนโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติต่อตนให้ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย หรือเกิดจากการปฏิบัติโดยมิชอบของผู้บังคับบัญชา ก็สามารถร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ เช่น หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย-เลื่อนขั้น ถูกข้ามอาวุโสในการแต่งตั้งโยกย้าย หรือถูกกลั่นแกล้งให้โดนลงโทษ ก็สามารถร้องขอความเป็นธรรมกับ ก.พ.ค.ตร.ได้โดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้สนใจสมัครเป็นคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.รวม 16 คน และได้มีการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ ที่สำนักงาน ก.พ.เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกตามรายชื่อดังกล่าว จากนี้ ประธานกรรมการคัดเลือกฯ จะมีการส่งรายชื่อทั้งหมด ไปให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป