นายกฯ หารือ ผบ.ตร.ยกระดับมาตรการกฎหมายครอบครองอาวุธปืน-สกัดนำเข้า หลังเกิดเหตุยิงในห้างดังกลางกรุง !!

21440

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อหารือถึงมาตรการในการป้องกันเหตุกราดยิง หลังจากวานนนี้ (3 ต.ค.) เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงที่ห้างพารากอนมีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 5 คน ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้เดินทางกลับ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มีการพูดคุยกันเรื่อง เรื่องแรก ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่วานนนี้ได้ปฏิบัติการได้อย่างเฉียบขาดทันควันและที่สำคัญจับกุมผู้กระทำความผิดได้ และเรื่องการค้นหาญาติของคนจีนที่กระจัดกระจายช่วงชุลมุนได้เวลาสี่ทุ่มกว่า และเป็นวาระที่ดีได้โทรบอกท่านทูตจีนว่าเราได้เจอแล้ว ทางสถานทูตจีนได้คลายความกังวลว่าเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้

เรื่องที่สองพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการยกระดับของกฎหมายในการครอบครองปืน หรือความง่ายในการครอบครองอาวุธปืน และเรื่องที่สามผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกะทรวงการคลังที่ดูแลกรมศุลกากรอยู่ต้องเข้มงวดในการนำเข้าปืน เป็นช่องโหว่ในการนำปืนนอกเข้ามา

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุยิงในห้างพารากอนหลังจากนี้ว่า คนทำความผิดเป็นเด็ก จึงขอว่าอย่าไปแตะตรงนั้น ตอนนี้ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ เนื่องจากผู้ต้องหา ไม่อยู่ในสภาพที่จะให้ปากคำได้ จึงมีส่วนที่จะต้องไปดำเนินการต่อ

ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับ คือให้ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งที่จริงเราทำกันมาแล้ว สถิติอาชญากรรมทางอาวุธปืน ในช่วงก่อนหน้านี้ 2 เดือน ตำรวจก็ได้มีการปิดล้อมตรวจค้น หลายร้อยที่หมาย จับผู้ต้องหาได้ 2,000 กว่าคดี ได้ปืน 900 กว่ากระบอก ซึ่งในช่วงที่ตนดูแลงานปราบปราม ยืนยันมีการดำเนินการจับอย่างจริงจังไม่ใช่การเมคขึ้นมา แต่ดูจากสถิติที่มีการส่งขึ้นมา ปืนที่เป็นปืนจริงแทบจะไม่ได้ถูกนำมาก่อเหตุ แต่สถิติที่เห็นว่าปืนที่นักเรียนมักจะนำมาใช้ในการทะเลาะวิวาทกัน เป็นปืนชนิดแบลงค์กัน โดยทางสพฐ.ได้ส่งรายละเอียดมาให้ แต่การใช้ปืนแบลงค์กันไม่มีกฎหมายที่จะไปบังคับการนำเข้า ผ่านพิธีทางศุลกากร คนขายแค่ขออนุญาตแต่คนซื้อไม่มีใบอนุญาต นี่คือช่องว่างทางกฎหมาย แล้วก็นำไปดัดแปลง ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวานเป็นปืนแบลงค์กัน และนำไปดัดแปลงตาม youtube โดยในขั้นแรกตนได้สั่งการไปที่ สอท. ให้เจาะเว็บไซต์ของกลุ่มพวกนี้ให้ได้ ตั้งเป็นทีมจับกุมเว็บที่ขายปืนเถื่อนทางออนไลน์โดยเฉพาะ โดยมีการสั่งตั้งทันที

ขณะที่ประเด็นทางข้อกฎหมาย ตนได้ประสานทางกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ทำให้ปืนแบลงค์กันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อขายกันได้ ให้ตีว่าเป็นอาวุธยกระดับข้อกฎหมายขึ้นไปเลย เพราะการนำเข้ามาแบบสิ่งเทียมอาวุธปืนทำให้สิ่งของเหล่านี้หลุดมาในตลาด เราจะไม่ใช่แค่ดำเนินการจับกุมแต่จะเป็นการยกระดับให้มีข้อกฎหมาย ห้ามนำเข้าเลยให้ถือว่าเป็นปืนจริง ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีแล้วว่าจะทำตรงนั้น

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังขอร้องสื่อมวลชนอย่าให้มีการนำเสนอถึงพฤติกรรมการก่อเหตุ เพราะจะเป็นการสร้างจุดสนใจ เป็นเป้าและถูกมองว่าเป็นฮีโร่ ทำให้อาจจะเกิดเป็นพฤติกรรมการเลียนแบบขึ้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดนครราชสีมา และเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ตนก็ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ไม่นำเสนอข่าวในจุดนี้ เป็นสิ่งที่ดีมาก และตนก็ฝากเผยแพร่คลิป “วิ่งซ่อนสู้” เพื่อนำไปกระจายให้กับประชาชน เป็นแนวทางวิธีปฏิบัติขณะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พร้อมระบุ หลังจากนี้จะมีการมอบโล่รางวัลให้กับนายตำรวจที่เข้าไปดำเนินการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งถือว่าตำรวจนครบาลทำได้อย่างดี

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์