รอง ปธ.-สส.ดันรัฐสภาจังหวัด ระวังเพิ่มที่ขี้เยี่ยวให้”หมา-แมว”คนเร่ร่อนสิงสถิต-พวกขี้ยายึดพี้                                

288

           นับแต่สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่เลือกประธานสภาฯและรองประธานฯ 2 คน เรียบร้อย พอเข้าบริหารสร้างสีสันให้ชวนติดตามบ่อยครั้ง

           ประเดิมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา  รองประธานสภาคนที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการควักงบรับรองของรองประธานสภาฯ เลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภาฯ 370 คน จนถูกวิจารณ์หนักว่าใช้งบผิดประเภทหรือใช้งบหลวงโฆษณาตัวเองหรือเปล่า

     ตามด้วยขนทีมงานบินดูงานรัฐสภาสิงคโปร์ ช่วงวันที่ 21-24 กันยายน ด้วยงบประมาณ 1.3 ล้านบาท ถูกนินทาว่า”บินหรู อยู่หรู ดูฝ่น” จนนายปดิพัทธ์ ต้องออกมาสยบดรามาว่ายินดีให้ตรวจสอบค่าใช้จ่าย

   ขณะเดียวกันบรรดาชาวเน็ตต่างตั้งข้อสังเกตว่าช่างบังเอิญจริงๆที่คณะของนายปดิพัทธ์ บินไปตรงกับเทศกาลเบียร์จัดถึง 6 แห่ง พอดีและอยู่ไม่ไกลจากสถานที่พักของคณะดูงานเสียด้วย

  ขณะที่รองประธานสภาคนที่ 2 นาม”พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” จากเพื่อไทยก็ไม่น้อยหน้า ขนบรรดาสส.ตั้งโต๊ะแถลงจัดตั้งรัฐสภาจังหวัด เพื่อให้ภารกิจของรัฐสภาเข้าถึงประชาชนและประชาชนเข้าถึงรัฐสภาได้

   “ โครงการนี้เคยทำมาแล้วปี 2556 สมัยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานสภาฯ  นำร่อง 6 จังหวัด พอเกิดรัฐประหารปี 2557 ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติประเมินว่าไม่ผ่านก็ถูกยุบทั้งที่ไม่มีการทุจริต”นายพิเชษฐ์ระบุ และว่า รัฐสภาจังวหัด จะเริ่มต้นในงบประมาณปี 2567-2568 เพื่อตอบสนองประชาชนเช่นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายที่ผ่านมาลำบาก หากมีรัฐสภาจังหวัดประชาชนจะทำได้เร็วขึ้น

   “ขอยืนยันว่าไม่ใช่การผลาญงบประมาณ ไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ยังไม่ได้ประเมินว่าจะใช้งบประมาณเท่าใด และจะไม่ซ้ำซ้อนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดของฝ่ายบริหาร เพราะรัฐสภาจังหวัดจะตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยซ้ำ”นายพิเชษฐ์กล่าว

   สำหรับโครงการรัฐสภาจังหวัดตั้งเมื่อปี 2556 สมัย นายสมศักดิ์ วางเป้า 24 จังหวัด นำร่องก่อน 6 จังหวัดประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น ชลบุรี เชียงราย สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี

   ปี 2557 เผด็จทหารยึดอำนาจ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.สั่งยุบเพราะไม่ผ่านการประเมินและไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ เพราะค่าใช้จ่ายทั้ง 6 จังหวัดช่วง 1 กรกฎาคม2556-14 สิงหาคม 2557 สูงถึง 50.3ล้านบาท

  แต่โครงการนายพิเชษฐ์ จะตั้งรัฐสภาทั้ง 77 จังหวัด ช่วงแรกจะเช่าอาคารสถานที่จังหวัดละ 80,000 บาทต่อเดือน จากนั้นอีก 2 ปี จะสร้างอาคารรัฐสภาจังหวัด พร้อมจ้างบุคลากรจำนวนหนึ่ง และให้เป็นที่นั่งทำงานของผู้ช่วยสส.แต่ละจังหวัด รวมถึงเป็นสถานที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน

  หากโครงการนี้ผลักดันสำเร็จงบประมาณที่จะใช้เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แค่ 2 ปี เฉพาะเช่าอาคารเดือนละ 80,000 บาทปาเข้าไป 147,000,000 ล้านบาท ยังไม่รวมเงินเดือนข้าราชการที่ไปประจำ ค่าอุปกรณ์สำนักงานหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ

 ถ้าผลักดันให้สร้างอาคารสำนักงาน สมมุติตั้งงบแบบถูกๆไว้หลัง 50 ล้านบาท ปาเข้าไป 3,850 ล้านบาทแต่สำหรับบรรดาสส.คงไม่ตั้งงบก่อสร้างไว้แค่ 50 ล้านบาทแน่นอน หากตั้งงบหลังละ 100 ล้าน ปาเข้าไป 7,700ล้านบาท

  ขณะที่นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น สามารถที่จะติดต่อที่ส่วนกลางได้โดยตรงแล้ว
   
ความเห็นนี้นายพิเชษฐ์และบรรดาสส.ควรนำไปคิดประกอบด้วย เพราะเป็นยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและทันสมัย ชาวบ้านเกือบทุกคนมีโทรศัพท์มือถือสามารถติดต่อกับทางราชการได้ทันทีอยู่แล้ว
 แต่ถ้ายังดึงดันที่จะผลักดันโครงการรัฐสภาจังหวัด พร้อมจัดสรรงบประมาณสร้างอาคาร อยากให้นายพิเชษฐ์และเหล่าส.ส.ช่วยใช้สมองคิดให้รอบคอบ

  ประเด็นแรก หากโครงการนี้ผลักดันกันเต็มสูบรัฐบาลต้องใช้งบประมาณกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอย ประชาชนส่วนใหญ่รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่รัฐบาลต้องทุ่มงบให้สภาฯเพื่อก่อสร้างอาคารโดยไม่จำเป็น ทั้งที่โลกสมัยใหม่เทคโนโลยีก้าวล้ำอยู่ที่บ้านสามารถค้าขายได้ทั่วโลก หากบรรดาสส.จะทำจริง ข้อครหาว่าหวังเงินเข้ากระเป๋าแล้วเอาประชาชนบังหน้าก็ไม่เกินเลย

   ประเด็นที่ 2 ให้คิดถึงโครงสร้างอำนาจทางการเมือง ว่าการเมืองไทยมีรากฐานประชาธิปไตยเข้มแข็งแค่ไหน ถ้ารัฐบาลชุดนี้บริหารผิดพลาด พรรคก้าวไกลสามารถเปิดเกมรุกกุมใจชาวบ้านได้ เมื่อจัดเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลเกิดแลนด์สไลด์ กลุ่มอำนาจเก่าจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าไม่ยอมมีโอกาสที่เผด็จการทหารก่อรัฐประหารเป็นไปได้สูง

  ถึงเวลานั้นอาคารรัฐสภาจังหวัดจะถูกยุบปล่อยทิ้งร้างเหมือนอาคารต่างๆ อาทิ ศูนย์สินค้าโอท็อป ยุครัฐบาลไทยรักไทย หรือโรงรีดยางรมควันยางพารายุครัฐบาลประชาธิปัตย์ รวมถึงอาคารต่างๆที่รัฐบาลสร้างไว้แล้วถูกปล่อยร้างจำนวนมากทั่วประเทศ จนกลายเป็นที่ขี้เยี่ยวของพวกหมาแมว  คนเร่ร่อนยึดเป็นที่สิงสถิตและเป็นที่นัดพี้ยาของพวกขี้ยา

  หากโครงการรัฐสภาจังหวัดเป็นจริงเต็มรูปแบบมีอาคารสำนักงานเป็นของตัวเอง ขอทำนายล่วงได้เลยว่าเป็นการเพิ่มสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ให้พวกคนเร่ร่อนสิงสถิต พวกขี้ยานัดพี้ยา และเป็นที่ขี้เยี่ยวของพวกหมาแมว อย่างแน่นอน ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการกระเป๋าตุงกลับบ้านสบายใจเฉิบ !!!