ตำรวจไทยคว้ารางวัลความร่วมมือจากจีนปีแรก หลังปราบจีนเทา-แก๊งคอลฯ

248

“รองฯสุรเชษฐ์”เป็นผู้แทนตำรวจไทย คว้ารางวัลความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติเป็นปีแรก จากสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังปราบทุนจีนเทา คอลเซ็นเตอร์ และทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยมี 46 ชาติร่วมแสดงจุดยืน ขณะที่รัฐมนตรีจีนให้คำมั่น นักท่องเที่ยวจีนไปไทยทะลุ 10 ล้านคนแน่ หลังไทยเปิดฟรีวีซ่า

หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ มาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของทุนจีนสีเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึง ปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นประเทศไทยเพียงด้านเดียว มายาวนาน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของจีน ได้ประกาศมอบรางวัลเหรียญสดุดี The Gold Great Wall Commemorative Award (เหรียญทองกำแพงเมืองจีนสดุดีตำรวจชั้นสูงสุด)หรือรางวัลความร่วมมืออันดียิ่งในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลนี้ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากมอบรางวัลการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติแล้ว รัฐบาลจีน ยังได้แสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติกับนานาประเทศโดยมี กลุ่มประเทศมากกว่า 46 ประเทศสนใจเข้าร่วม ประชุมความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เมืองเหลียนหยุนก่าง มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายหวังเฉี่ยว หง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของจีนเป็นประธาน

และจากการพูดคุยแบบทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงของจีน กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มาประชุมในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยระบุว่าขณะนี้รัฐบาลไทยเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และจะใช้เทคโนโลยีในการติดตามดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตามหัวเมืองสำคัญในโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ซึ่งปัจจุบันได้นำร่องในหลายเมืองแล้ว

ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนเปิดเผยว่า ไทยยังคงเป็นประเทศปลายทางที่คนจีน อยากเดินทางไปท่องเที่ยวโดยที่ผ่านมามีคนจีนไปเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 12,000,000 คนแต่หลังจากสถานการณ์โควิด19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงแต่เชื่อมั่นว่ามาตรการที่จะทำร่วมกันจากนี้จะทำให้คนจีนมีความมั่นใจและเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 10ล้านคนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ น่าจะเริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน โดย กลุ่มจังหวัดที่ชาวจีนอยากแวะไปเยือนอย่างเป็นทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะกระบี่ ภูเก็ต และพังงา

นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่าจะส่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปทำงานร่วมกับประเทศไทยในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจาก พบเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีนไปแอบฟังคอลเซ็นเตอร์ตามตะเข็บชายแดนระหว่างประเทศไทยกับสปป.ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาได้ส่งทีมงานเข้าไปกวาดล้างรอบแรกแล้วในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์ จึงได้ผู้ต้องหาชาวจีนกลับมานับ 100 คน

#thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์