ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริต โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 พร้อมด้วยนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 113 ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนพบความเดือนร้อนของประชาชนซึ่งถูกเจ้าหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยโหดใช้ลูกน้องมาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย คุกคามบุคคลในครอบครัว ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่ก่อเหตุทราบชื่อ คือ นาย พีระพันธุ์ หรือ หนุ่ม จันทรวงศ์ ซึ่งขณะนั้นร่วมกับหลานซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้า หลังทราบว่ามีคดีได้หลบหนีไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 พร้อมด้วยนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 113 (ชุดปฏิบัติการที่ 7) รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ , สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ชุด PCT5 พร้อมด้วยนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 113 (ชุดปฏิบัติการที่ 7) ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม
นาย พีระพันธุ์ หรือหนุ่ม จันทรวงศ์ อายุ 28 ปี ที่อยู่บ้าน เลขที่ 32 หมู่ 7 ต.ภารแอ่น อ.พยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.556/2566 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ซึ่ง
ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ”
โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
.
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยรับว่าตนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เดิมทีประกอบอาชีพช่างโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ต่อมาได้รับการชักชวนจากเพื่อนและหลานซึ่งทำงานเก็บเงินกู้รายวันมาก่อน ชักชวนให้มาทำงานเก็บเงินกู้ย่านมีนบุรี บอกว่ารายได้ดี งานสบาย จึงมาสมัครทำงาน ได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน เดือนละ 6,000 บาท เบี้ยเลี้ยงวันละ 100 บาท โดยทำหน้าที่ร่อนนามบัตร “ เฮงเงินทุน ” และเก็บเงินกู้ เกี่ยวกับข้อหาตามหมายจับ น่าจะเป็นกรณีซึ่งตนจำได้ว่าเมื่อช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ตนและหลานซึ่งเป็นคู่ขาเก็บเงินกู้ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายซึ่งเปิดร้านอาหารตามสั่งแถวถนนราษฎร์ร่วมใจ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ สนใจกู้เงินจำนวน 10,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อเดือน โดยกำหนดให้ชำระเป็นรายวัน วันละ 500 บาท จำนวน 24 วัน โดยโอนเงินให้ผู้กู้จำนวน 9,000 บาท (หักค่าส่งงวดแรกจำนวน 500 บาท หักค่าเอกสาร จำนวน 500 บาท) ให้ส่งค่างวดรายวันโดยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน ต่อมาผู้กู้แจ้งว่าขาดสภาพคล่องไม่สามารถส่งเงินกู้รายวันได้ทันตามกำหนด ตนและคู่ขาเก็บเงินกู้จึงเดินทางไปด่า ข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายผู้กู้และทำลายทรัพย์สินภายในร้านของผู้กู้ รวมทั้งสามี และบุตรของผู้กู้ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้ผู้กู้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน เมื่อรู้ว่าตนน่าจะถูกดำเนินคดี จึงเกิดความกลัวและได้หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่จังหวัดนครนายก
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลกระทำความผิด จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย
(1) ปี 2565 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ” ท้องที่ สภ.คอนสาร
(2) ปี 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันในข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราโดยให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ” ท้องที่ สน.มีนบุรี
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพตลอดจน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการใช้ความรุนแรง และภยันตรายจากอาชญากรรมต่างๆ ในสังคม มีหลายรูปแบบ ของให้พี่น้องประชาชนจงช่วยกันระมัดระวังป้องกันเหตุ หรือช่วยเหลือแจ้งเบาะแส แจ้งเหตุให้ทันท่วงที หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลใดจะเข้ามาก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากหรืออื่นๆ แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
#thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์