หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบช.ภ.7 "นำทัพแถลงผลงานตามรวบ 2 ผตห. ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ในพื้นที่ สภ.ท่าเรือ

“ผบช.ภ.7 “นำทัพแถลงผลงานตามรวบ 2 ผตห. ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ในพื้นที่ สภ.ท่าเรือ

ผบช.ภ.7 นำทัพ แถลงผลงาน ตามรวบ 2 ผตห. ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ในพื้นที่ สภ.ท่าเรือ พร้อมกำชับรวบรวมพยานหลักฐานเข้าในสำนวนให้รอบคอบ รัดกุม

เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 27 ก.ค. 66 ที่ สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวณิชกูล
ผบก.สส.ภ.7,พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัยผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี,พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.พศวี เรืองภู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี,พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ รวม 2 ราย ได้แก่ (1.)นายบันเทิง แตงอ่อน อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 458/2566
(2.)นายปฏิวัติ บรรเทิงสมหวัง อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 461/2566

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยมีอาวุธ โดยแต่งเครื่องแบบตำรวจ โดยร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรอง เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในกาย, ร่วมกันแต่งกายโดยใช้เรื่องแต่งกายคล้ายเรื่องแบบตำรวจ ทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจเพื่อกระทำความผิดอาญา, ร่วมกันสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ เพื่อกระทำความผิดอาญา, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป้นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

พร้อมของกลางจำนวน 4 รายการ ได้แก่
1.รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊ก สีดำ-น้ำตาล ทะเบียน 1กจ2915 กาญจนบุรี (ที่ใช้ก่อเหตุ) 1 คัน
2.รถยนต์ ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน 1กพ1021 กรุงเทพฯ (ที่ใช้ก่อเหตุ) 1 คัน
3.ไฟฉาย (ที่ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 ชิ้น
4.กุญแจมือ (ที่ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 ชิ้น

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวจากกรณี เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 20.10 น. สภ.ท่าเรือรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุมีผู้เสียหายถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายตำรวจ ทำทีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ หยุดรถผู้เสียหายแล้วก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายได้รถยนต์ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน ขข 2590 นครสวรรค์, โทรศัพท์ ไอโฟน รุ่น 7พลัส และ เงินสด 3,000 บาท หลบหนีไป จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเร่งรัดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนสอบสวน คำให้การผู้เสียหาย และพยานประกอบกับภาพวงจรปิดที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ ทราบว่ามีคนร้ายร่วมก่อเหตุ จำนวน 2 คน ใช้รถยนต์ และ จักรยานยนต์ของกลางทำทีว่าเกิดอุบัติเหตุเพื่อให้ผู้เสียหายหยุดรถ และพิสูจน์ทราบพาหนะของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสืบสวนพบรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ จอดทิ้งซุกซ่อนไว้ จึงตรวจยึดเป็นของกลางในคดี และสืบสวนเชื่อมโยงกับนายบันเทิง แตงอ่อน จึงเชื่อว่านายบันเทิงฯ เป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับที่ 458/2566 ลง 25 ก.ค. 66

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุเรื่อยมา จนพบรถยนต์ที่ผู้ชิงทรัพย์ไปจอดทิ้งไว้ ณ ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมนายบันเทิงฯ ได้ในพื้นที่ภาคเหนือ จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้นสืบสวนขยายผลพบว่ารถยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุเชื่อมโยงกับนายปฏิวัติ บันเทิงสมหวัง จึงเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายปฏิวัติ บันเทิงสมหวัง จึงแบ่งกำลังให้ฝ่ายสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับให้ฝ่ายสืบสวนบูรณาการกำลังสืบสวนไล่ล่าติดตาม พบตัวนายปฏิวัติฯ ซึ่งในซุกซ่อนอยู่พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับที่ 461/2566 ลง 26 ก.ค. 66 จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในการนี้ ผบช.ภ.7 ได้มอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน ในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักการทำงานแบบ ”กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก“ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ และผู้เสียหายได้มอบกระเช้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับกุมคนร้ายพร้อมได้ของกลางกลับคืนมา ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้าในสำนวนให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างแท้จริง อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม ตามคติที่ว่า ”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์“

ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ด้วยความรวดเร็ว และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ผบช.ภ.7

#thaitabloid

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img