เชื้อชั่วไม่มีวันตาย(3)
คงลุ้นระทึกกันต่อว่าพรรคก้าวไกล จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
หัวหน้าพรรค จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ? แต่ดูเหมือนว่าสมาชิกพรรคก้าวไกลรวมถึงนายพิธา มั่นใจว่าจะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ต่างเดินหน้าพบปะกลุ่มต่างๆเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมในการทำงานเมื่อเข้าสู่อำนาจ
เช่นเดียวกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินหน้าเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานต่างๆ ที่โดดเด่นคงหนีไม่พ้นกรณีสติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุก ซึ่งผู้ประกอบการต่างขานรับและให้เร่งตรวจสอบ ซึ่งตำรวจทางหลวงโดนเข้าเต็มๆถูกผู้บังคับบัญชาสั่งฟันทั้งอาญาและวินัย
ขณะที่บนถนนหลวงก็ไม่ได้มีแค่ตำรวจทางหลวงรับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียว ยังมีตำรวจท้องที่และที่สำคัญเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ก็ร่วมรับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายด้วยเช่นกัน
แต่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีสติ๊กเกอร์ส่วยแต่อย่างใด ทั้งที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อน้ำหนักบรรทุกของรถบรรทุกหนักทุกชนิด โดยเฉพาะสถานีด่านชั่งน้ำหนักที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักทุกสาย มีไว้ควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกที่บรรทุกเกิน ซึ่งรถทุกคันต้องผ่านด่านชั่ง หากบรรทุกน้ำหนักเกินจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีและอาจจะถึงขั้นยึดรถ
จึงไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่? หรือมีเอี่ยวอยู่กับสติ๊กเกอร์ส่วยด้วยหรือไม่ ?ทั้งสองคำถามถ้าจะตอบก็คงตอบได้ว่าไม่ตรงไปตรงมาและอาจจะมีเอี่ยวกับสติ๊กส่วยรถบรรทุกด้วย หลักฐานที่ปรากฏให้เห็นและชาวบ้านสามารถสัมผัสได้คือ ถนนสายหลักทั่วประเทศช่องจราจรด้านซ้ายที่รถบรรทุกหนักวิ่ง จะพัง ทรุด บางสายลามไปช่องจราจรด้านขวา
“ข้อมูลลักษณะนี้ไม่แน่ใจว่าทางผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ร้องเรียนกับนายวิโรจน์ได้แนบไปให้ด้วยหรือไม่.?แต่ดูจากพฤติกรรมของผู้บริหารกรมการขนส่งทางบกแล้วแทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากหนัก มีเพียงแค่ผู้ตรวจประจำกรมฯออกตรวจด่านชั่งโดยมีกำหนดการและนัดแนะกับสื่อมวลชนล่วงหน้าอีกต่างหาก”
ข้อสงสัยที่คาใจว่าจะมีการทุจริตด้วยหรือไม่นี้นายวิโรจน์และพรรคก้าวไกลไม่ควรปล่อยผ่านอย่างเด็ดขาด สำหรับกรมการขนส่งทางบกความรับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายมิได้มีแค่บนถนนหลวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานอื่นๆที่เกี่ยวกับรถทุกชนิดอีกต่างหาก ซึ่งมีเสียงนินทาจากข้าราชการด้วยกันว่าเป็นกรมฯที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลประโยชน์แทบทุกหน้างานเสมือนแดนสนธยาไม่มีใครสามารถเข้าไปแตะต้องได้
ขอยกตัวอย่างสัก 1 ตัวอย่างก่อน คือการจองป้ายทะเบียนรถของบรรดาผู้ซื้อรถใหม่ที่อยากได้ป้ายเลขทะเบียนสวยหรือถูกโฉลกกับตัวเอง การได้มาของเลขทะเบียนสวย ทางกรมการขนส่งทางบกก็มีวิธีที่เปิดเผยเท่าที่ปรากฏให้เห็น เพื่อให้บรรดาเจ้าของรถที่ถวิลหาเลขสวย เลขถูกโฉลก เข้าถึงมี 2 วิธี
วิธีแรกคือนำเลขสวย อาทิ เลขตอง เลขเรียง เลขคู่ เลขตัวเดียว หรือเลขที่นำไปคำนวณแล้วผลเป็นเลขมงคล ออกมาประมูลวิธีที่ 2 คือการนำเลขทะเบียนที่เหลือจากการประมูลและเลขที่ดูแลน่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ครอบครอง นำออกมาให้จองผ่านทางออนไลน์
ซึ่งวิธีนี้มีเสียงครหาว่าบางตัวเลขถูกล็อกไว้ให้กับพวกมีเส้นสาย หรือบรรดาบิ๊กๆในวงการต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านทั่วไปก็จองได้เพียงไม่กี่เลขเท่านั้น นอกจาก 2 วิธีนี้ก็มีเสียงครหาว่า “เลขทะเบียนสวยๆนั้นถูกเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกบางคน บางกลุ่มได้ล็อกไว้ให้กับบรรดาผู้ครอบครองรถที่อยากได้เลขสวยและเลขที่ถูกโฉลก โดยแรกกับปัจจัยด้วยเลข 4 หลักหรือ 5 หลัก ขึ้นอยู่กับว่าเลขนั้นเป็นเลขมงคลและเป็นที่ต้องการของเจ้าของรถแค่ไหน”
วิธีดังกล่าวได้ปรากฏหลักฐานให้เห็นเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลในการซื้อรถของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง ที่ซื้อรถกว่า 200 คัน ทั้งจากตัวแทนของบริษัทโตโยต้าฯและบริษัทฮอนด้าฯ เมื่อส่งมอบป้ายทะเบียนรถพบว่ารถแต่ละคันได้เลขทะเบียนที่สวยงามอย่าน่าแปลกใจ อาทิเลข 8899 6655 และ5559 เป็นต้น ขณะที่รถกระบะที่ทั้งเลขเรียง 567 หรือ 357 หรือ 579 หรือ5657 เป็นต้น
เจ้าหน้าที่บริษัทรถเช่าได้สอบถามกับพนักงานบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถว่า ทำไมรถล็อตนี้ป้ายทะเบียนเลขถึงสวยกว่าล็อตที่ผ่านมา ก็ได้รับคำตอบว่าเจ้าหน้ากรมการขนส่งเร่งปล่อยทะเบียนรถที่กักไว้ เพราะกลัวความผิดเนื่องจากทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะเข้าตรวจสอบ แต่เมื่อพ้นเวลาวิกฤตนี้ไปแล้วก็มีเสียงนินทาออกมาว่าการล็อกทะเบียนเลขสวยได้กลับมาสู่วงจรอุบาทว์แบบเดิมๆแล้ว
นี่คือข้อมูลบางส่วนที่ปรากฎให้เห็นว่าในกรมการขนส่งทางบกล้วนมีช่องทางที่จะหาประโยชน์ได้ทั้งสิ้น
แทนที่ว่าช่องหาประโยชน์นี้จะได้เงินเข้ารัฐกลับเข้ากระเป๋าของเจ้าหน้าที่รัฐแทน เมื่อพรรคก้าวไกลที่ประกาศว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะลุยปราบทุจริตทุกรูปแบบก็ลองเจาะข้อมูลเกี่ยวกับการหาประโยชน์ในกรมการขนส่งทางบก บ้างก็น่าจะดี เพื่อขจัดเชื้อชั่วที่ไม่มีวันตายได้สงบลงบ้างก็ดี !!!
