หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมป.ป.ส.ร่วมตำรวจภูธรภาค 5 ปฎิบัติการปิดล้อม จับกุม ยึด อายัด ทรัพย์สินเครือข่ายนายธนพล รามจุล

ป.ป.ส.ร่วมตำรวจภูธรภาค 5 ปฎิบัติการปิดล้อม จับกุม ยึด อายัด ทรัพย์สินเครือข่ายนายธนพล รามจุล

วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับ พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวปฏิบัติการปิดล้อม จับกุม ยึด อายัด ทรัพย์สินเครือข่ายนายธนพล รามจุล ในพื้นที่ เชียงราย และกรุงเทพฯ พร้อมขยายผล ยึด อายัดทรัพย์สิน กว่า 20 ล้านบาท โดยมี ฯพณฯ โจนาทาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าวครั้งนี้

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566 เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก จ.ลำปาง จับกุม นายบุญเลิศ รามจุล นายธนพล รามจุล และ น.ส.กัญญารัตน์ เพิ่มรุ่งเรือง พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 2,000,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 297 กิโลกรัม คีตามีน จำนวน 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกล่องพลาสติก หลังรถกระบะบรรทุกสินค้า หมายเลขทะเบียน กรุงเทพ จำนวน 1 คัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับ ผู้สั่งการเป็นเจ้าของยาเสพติดและผู้ร่วมขบวนการตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย จำนวน 3 ราย ปฏิบัติการในพื้นที่ จ.เชียงราย และกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 1. นายสุริยา พรหมมิน อายุ 57 ปี เป็นผู้ว่าจ้างและผู้สั่งการ โดยสามารถจับกุมได้
ณ บริเวณคอนโดมีเนียม ย่านเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. 2. นายสมพงษ์ พุทธวงค์ อายุ 46 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการประสานงาน จับกุมได้ บริเวณหลัก กม.ที่ 49 ถนนบายพาส ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ยังพบเพิ่งโทรศัพท์หานายบัณฑิตย์ฯ จึงได้ติดตามและจับกุมได้บริเวณใกล้เคียง เป็นรายที่ 3. คือนายบัณฑิตย์ ไวยะกา อายุ 34 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานลำเลียง จับกุมได้ขณะขับรถยนต์ออกจากบ้าน หมู่ที่ 6 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาเสพติด ไอซ์ น้ำหนัก 400 กิโลกรัม และยาบ้า 2,600 เม็ด

จากนั้นขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทรัพย์สินจาก 3 เป้าหมาย ได้แก่ รถยนต์ 5 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ พร้อมรถเกี่ยวข้าว อาวุธปืน ชุดโต๊ะไม้ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรวม 12 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 26,273,000 บาท

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มีมาตรการปราบปรามกลุ่มผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการสกัดกั้นอย่างเข้มข้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์ปัญหายาเสพติดรุนแรง และจะมีการจัดการกับกลุ่มเครือข่ายผู้ลักลอบขนยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศได้ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในภาพรวมของประเทศไทย

และขอเตือนอีกครั้งว่าตามประมวลกฎหมายยาเสพติดผู้ที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไอซ์ นั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี ปรับไม่เกิน 1,500,000 บาท และกรณีเป็นหัวหน้า ผู้สั่งการ จำคุก 5 ปี ถึงตลอดชีวิต ปรับ 5 แสนบาท ถึง 5 ล้านบาท หรือประหารชีวิต

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img