หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมรวบนายอำเภอแม่วงก์ทุจริตเรียกเก็บเงินค่าบ่อนไก่

รวบนายอำเภอแม่วงก์ทุจริตเรียกเก็บเงินค่าบ่อนไก่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวบนายอำเภอแม่วงก์เรียกรับผลประโยชน์ในการขอใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นพนัน (บ่อนไก่ชน)

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป., พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.๔ บก.ปปป.

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. นำโดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายอภินันท์ เรืองประเภท ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครสวรรค์

พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. นำโดย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายเอกชัย เกษมสุขธวัช ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต

และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. นำโดย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ง., นายประวิทย์ แช่มมั่นคง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และ พ.ต.ท.พร้อมพันธ์ ทัตติยกุล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ

ร่วมกันจับกุม นายประสิทธิ์ฯ (นายอำเภอแม่วงก์) อายุ 60 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” มาตรา 157

สถานที่จับกุม บริเวณห้องทำงาน อาคารที่ทำการปกครองอำเภอแม่วงก์ ต.แม่วงก์ อ.แม่วงก์
จ.นครสวรรค์

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย กรณี ผู้เสียหายได้รับอนุญาตเป็นผู้เปิดบ่อนไก่ชน ใน เขตอำเภอแม่วงก์ (โดยมีใบอนุญาตเป็นรายปี) แต่จะต้องมีการขอใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (พ.น.4) ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะต้องมีการยื่นคำขอเป็นรายเดือน โดยวิธีการขออนุญาต คือ ผู้ขอจะต้องไปยื่นใบคำขออนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (ยื่นคำร้องต่อนายอำเภอ) เพื่อให้นายอำเภอเป็นผู้ลงนามในใบคำร้องเพื่อยื่นต่อในระดับจังหวัด ถ้านายอำเภอไม่ลงนามในเอกสารดังกล่าว ก็จะไม่ยื่นเรื่องขออนุญาตในระดับจังหวัดได้

ในกรณีนี้ ผู้เสียหายได้ยื่นขออนุญาตจัดให้มีการเล่นพนันทุกเดือน และได้รับใบอนุญาตทุกเดือน โดยการขอใบอนุญาตรายเดือนนั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียม สังเวียนละ 220 บาท/เดือน ของผู้เสียหาย
มี 6 สังเวียน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,320 บาท/เดือน ส่วนเงินที่ผู้เสียหายจ่ายให้ผู้ต้องหาเดือนละ 3,000 บาท นี้เป็นเงินค่าดูแลรายเดือนให้แก่ผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่ง

แต่ 3 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งเดือนพฤษภาคมนี้ ผู้เสียหายก็ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้จ่ายเงินค่าลงนาม ให้กับผู้ต้องหามา 3 เดือน (ติดค้างอยู่ 3 เดือนๆละ 3,000 บาท) เป็นเงิน 9,000 บาท ผู้ต้องหาก็พยายามทวงถาม ผู้เสียหายตลอด และข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายก็ปิดบ่อนไก่ชนไปเลย ผู้เสียหายจึงพยายามหาเงินมาจ่ายให้ โดยนัดจ่ายเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 จำนวน 2 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท และในวันที่
19 พ.ค.2566 นัดหมายจะจ่ายที่เหลือและจ่ายล่วงหน้า อีก 3 เดือน (รวมเป็น 4 เดือนเป็นเงิน 12,000 บาท)

ต่อมาวันที่ 18 พ.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช., เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ง. ได้ประสานและวางแผนการจับกุม ร่วมกับผู้เสียหาย เพื่อกำหนดแนวทางและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเงินสดจำนวนทั้งสิ้น 12,000 บาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ กก.4 บก.ปปป.เพื่อเป็นพยานหลักฐาน

ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน
โดยให้ผู้เสียหายนำเงินสดซึ่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว นำมามอบให้ นายประสิทธิ์ฯ (นายอำเภอแม่วงก์) ที่ ห้องทำงานของนายอำเภอฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ฯ เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้วเดินออกจากห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเพื่อเข้าทำการตรวจค้น ขณะทำการตรวจค้น พบว่ามีเงินสดจำนวน 12,000 บาท อยู่ในกระป๋ากางเกงตัวที่นายประสิทธิ์ฯสวมใส่อยู่ จึงทำการตรวจสอบเงินสดต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตร ที่ลงบันทึกประจำวันไว้

จึงได้แจ้งพฤติการณ์ในการกระทำผิด และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ก่อนนำตัวผู้ต้องหา
ส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปปป. เพื่อทำการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดในข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าจะนำเงินไปปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอฯ

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img