หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมร้อง ปคบ. ล่ามิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม ออนไลน์

ร้อง ปคบ. ล่ามิจฉาชีพหลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม ออนไลน์

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค.66 ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.นพชลัยย์ วงศ์วัฒนาการ เจ้าของสถาบันสปากระเป๋าแบรนด์เนม ตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปคบ. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองราคาถูกผ่านเพจเฟซบุ๊ก แต่กลับได้รับสินค้าตามที่ตกลงกันไว้ โดยนำหลักฐานการโอนเงินมามอบให้ประกอบการพิจารณา

น.ส.นพชลัยย์ กล่าวว่า รู้จักเพจดังกล่าวจากการเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กมานาน 6-7 ปี แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เห็นว่ามีการโพสต์ภาพขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองหลายแบรด์อยู่เสมอ มีทั้งสภาพใช้งานได้ และสภาพที่ต้องนำมาซ่อมแซมทำความสะอาดเพิ่มเติม ประกอบกับส่วนตัวทำธุรกิจสถาบันสปากระเป๋าแบรนด์เนม และเปิดคอร์สสอน จึงสนใจติดต่อเข้าไปสั่งซื้อ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2565 เพราะเห็นว่ามีราคาถูกกว่าท้องตลาดถึงครึ่งหนึ่ง และเคยมีคนสั่งซื้อแล้วได้สินค้าจริง โดยซื้อทั้งหมด 7 ใบ รวมมูลค่า 28,000 บาท เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง สภาพต้องซ่อมแซม ซึ่งตนรับได้ เนื่องจากเพียงต้องการนำมาใช้ประกอบการสอนทำความสะอาดเท่านั้น

น.ส.นพชลัยย์ กล่าวอีกว่า หลังตกลงซื้อขายแล้ว ผู้ขายได้ให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 3 ธนาคาร และให้รอรับของประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ผ่านไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ก็ยังไม่ได้รับของ ก่อนจะเห็นเพื่อนในเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ได้สั่งซื้อกระเป๋าจากร้านเดียวกัน แต่ยังไม่ได้รับสินค้า และไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านได้ จึงเริ่มเอะใจ และได้ทวงถามไปยังเจ้าของร้าน แต่กลับได้รับคำตอบว่า ไม่มีเงินคืนให้ หากจะแจ้งความก็ยินดีทำตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลของผู้เสียหาย พบว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศ แล้วกว่า 60 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยรายที่เสียหายมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมิจฉาชีพยังคงโพสต์ขายกระเป๋าแบรนด์้นมมือสองอยู่ตลอด โดยใช้ภาพเก่าที่เคยโพสต์ขายแล้วมาขายซ้ำ

“ส่วนตัวไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่อยากให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้จนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหนื่อเพิ่มอีก ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า “ น.ส.นพชลัยย์ กล่าว

ด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์ โดยจะแต้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมฝากเคือนประชาชน ให้มีสติในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ อย่าเห็นแก่ของราคาถูก เพราะอาจคกเป็นเหนื่อมิจฉาชีพได้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img