หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย หวั่นเยาวชนตกเป็นเหยื่อซื้อไอเทมเกมออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย หวั่นเยาวชนตกเป็นเหยื่อซื้อไอเทมเกมออนไลน์

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณีการซื้อสินค้า หรือไอเทมเกมออนไลน์ ดังต่อไปนี้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้เสียหายหลายรายถูกผู้ต้องหาหลอกลวงประกาศโฆษณาขายสินค้าประเภทไอเทมเกมออนไลน์ หรือสกุลเงินในเกมออนไลน์ผ่านเพจในเฟซบุ๊ก โดยเสนอขายในราคาถูกกว่าราคาของบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกมดังกล่าว เช่น สกุลเงินในเกม 1 แพ็ก มี 7,200 เหรียญ ราคา 3,700 บาท แต่ผู้ต้องหาขายในราคาเพียง 2,050 บาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าปลอดภัย ไม่มีการขอ Refund หรือยกเลิกการซื้อแน่นอน (หมายถึงการขอคืนเงินที่ชำระค่าสินค้าภายในเกมในภายหลัง) เมื่อผู้เสียหายโอนเงินแล้วปรากฏว่าได้รับสกุลเงินในเกมจริง ต่อมาผู้เสียหายได้รับอีเมลจากบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกมว่า มีการขอยกเลิกการซื้อสกุลเงินภายในเกม เนื่องจากได้ตรวจสอบพบธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง หรือธุรกรรมเท็จ ส่งผลให้ไอเทม หรือสกุลเงินในเกมของผู้เสียหายสูญหายไป และไม่ได้รับเงินที่ซื้อสกุลเงินกลับคืนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

กระทั่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญา โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ” พร้อมตรวจยึดของกลาง นำตัวส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหลอกลวงที่แฝงมากับเกมออนไลน์ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การหลอกลวงขายไอเทมที่ไม่มีอยู่จริง การหลอกลวงจ้างให้เล่นเกม หรือที่เรียกว่า การปั๊มแรงค์ การหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ เช่น นำไปเปิดบัญชีธนาคาร ไปแฮ็กบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ที่ผ่านมายังปรากฎว่ามีบุตรหลานนำไปสร้างเรื่องหลอกลวงผู้ปกครองว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงิน แต่แท้จริงแล้วนำเงินผู้ปกครองไปใช้ซื้อไอเทมภายในเกม ไปสนับสนุนช่องยูทูบเบอร์เกมออนไลน์ เป็นต้น

ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางป้องกันการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ดังต่อไปนี้1.การซื้อสินค้า หรือไอเทมภายในเกมออนไลน์ต่างๆ ควรซื้อผ่านช่องทางของบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกมโดยตรง จะมีความปลอดภัยมากกว่าซื้อผ่านตัวกลาง, 2.หลีกเลี่ยงการเล่นเกมออนไลน์ ที่ต้องซื้อสินค้า หรือไอเทมภายในเกมกับบุคคลที่ไม่รู้จัก ไม่เคยพบหน้ามาก่อน, 3.หากจำเป็นต้องซื้อ ควรซื้อกับบุคคล หรือร้านค้าออนไลน์ หรือเพจ ที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น โดยตรวจสอบว่าร้านค้าเปิดมานานแล้วหรือไม่ หรือมีผู้ซื้อรายอื่นให้เครดิตว่าได้รับสินค้าจริง แต่ยังต้องระมัดระวังหน้าม้า หรืออวตารปลอม ที่มาให้เครดิตปลอม

4.ตรวจสอบ ชื่อบุคคล ชื่อร้านค้า ชื่อบัญชีธนาคาร ก่อนที่จะทำธุรกรรมการเงินว่ามีประวัติการโกงหรือไม่, 5.บัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน ตรงกับชื่อบุคคลที่โอนไปหรือไม่ ควรขอตรวจสอบบัตรประชาชนกับบัญชีธนาคารที่รับโอนก่อน, 6.หากสินค้า หรือไอเทมเกมดังกล่าวมีมูลค่าสูง ผู้ซื้อควรนัดพบผู้ขายในสถานที่ที่ปลอดภัย เพื่อทำการซื้อขายต่อหน้า, 7.ระวังคนแปลกหน้าในโลกออนไลน์ที่จะเข้ามาทักทาย อาจจะเป็นมิจฉาชีพเข้ามาหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือหลอกลวงให้โอนเงิน รวมถึงการนัดเจอเพื่อหลอกไปกระทำอนาจาร การชักชวนให้เล่นการพนัน การข่มขู่ เป็นต้น, 8.จัดเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ เช่น หลักฐานการพูดคุย การโอนเงิน เลขบัญชีธนาคารที่ทำธุรกรรม ไว้เพื่อดำเนินคดีหากถูกหลอกลวง

ทั้งนี้หากพบเบาะแสการกระทำผิด หรือข้อขัดข้องใดๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img