หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมผบ.ตร. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เเก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

ผบ.ตร. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เเก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

31 รางวัล ระดับภาค ภ.3, บช.น., ภ.4, ภ.6 คว้ารางวัล ส่วน ระดับจังหวัด ภูธรชลบุรี สุรินทร์ ชัยภูมิ ลดคนเจ็บตายมากสุด

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้กับหน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นด้านงานจราจร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ในด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  การอำนวยการจราจร และด้านการบังคับใช้กฎหมายจราจร  โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วม มีรางวัลทั้งระดับกองบัญชาการ (หรือตำรวจภูธรภาค)  และระดับกองบังคับการ (หรือตำรวจภูธรจังหวัด) รวมทั้งสิ้น 31 รางวัล

สำหรับการมอบรางวัลในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตร. ได้กำหนดมาตรการสำหรับการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งกำหนดเกณฑ์ในการประเมินผลงานหน่วยในแต่ละระดับ ผลปรากฏว่าในภาพรวมระดับประเทศนั้น ตร. สามารถบังคับใช้กฎหมายและป้องกันอุบัติเหตุได้ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด สามารถลดจำนวนอุบัติเหตุจากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังลงได้ถึง 713 ครั้ง  (คิดเป็น – 22.61 %)  ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังได้ถึง 49 ราย  (คิดเป็น -13.39 %) และลดจำนวนผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังได้ถึง 728 คน (คิดเป็น -23.00 %) มีการบังคับใช้กฎหมายข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ได้จำนวน 22,439 ราย มากกว่าค่าเฉลี่ยเทศกาลปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง 21.31 %   การบังคับใช้กฎหมาย 9 ข้อหาหลักด้านความปลอดภัยทางถนน    รวมจำนวน 495,928 ราย  มากกว่าค่าเฉลี่ยของเทศกาลปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง 91.75 %

ในส่วนของการประเมินหน่วยงานนั้น มีการประเมินผลทั้งด้านการลดอุบัติเหตุ การบังคับใช้กฎหมาย และการอำนวยการจราจร  โดยปรากฏมีหน่วยงานที่สามารถปฏิบัติงานได้ดีตามเกณฑ์ที่กำหนดถึง 31 หน่วย (ทั้งระดับ บช. แล บก.)   ผบ.ตร. จึงกำหนดให้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โดยมีหัวหน้าหน่วยเป็นผู้แทนมารับโล่ด้วยตนเอง  และในโอกาสนี้ ผบ.ตร. ยังได้สนับสนุนเงินส่วนตัวเพื่อมอบเป็นเงินรางวัลให้กับหน่วยที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 270,000 บาท อีกด้วย

หน่วยงานที่สามารถลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังได้ดีที่สุด ระดับ บช. อันดับ 1 คือ ตำรวจภูธรภาค  3  อันดับ 2 คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 4  อันดับ 3 คือ  ตำรวจภูธรภาค 6   ส่วนระดับ บก. ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี  สุรินทร์  และชัยภูมิ ตามลำดับ ทั้งนี้ มีการมอบรางวัลให้กับ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ในฐานะหน่วยงาน ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นด้านการอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร

ส่วนรางวัลด้านการบังคับใช้กฎหมาย เช่น หน่วยงานที่สามารถบังคับใช้กฎหมาย ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราได้มากที่สุด   3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา  นครปฐม  เชียงใหม่   หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายจราจร 9 ข้อหาหลักด้านความปลอดภัยทางถนนมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี  ชลบุรี  สุรินทร์

ผบ.ตร. กล่าวว่า “ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ ตร.ร่วมบูรณาการกับหน่วยเกี่ยวข้องในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ รวมทั้งอำนวยความสะดวกการจราจรให้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง ตร.มีผลการปฏิบัติบรรลุเป้าหมายตาม นโยบายรัฐบาลในทุกๆด้าน ขอขอบคุณข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน จนสามารถลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ส่วนการกำหนดเกณฑ์ประเมินและให้มีการมอบรางวัลในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นแรงจูใจสำหรับการปฏิบัติงาน และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ตั้งใจทำงาน   ซึ่งผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน  ขอชมเชยหน่วยที่ได้รับรางวัลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน การบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการอำนวยความสะดวก การจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้ตั้งใจ ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ สามารถนำหน่วยประสบความสำเร็จ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

ทั้งนี้ ได้กำชับไปยังทุกหน่วยทั่วประเทศ ถอดบทเรียนการปฏิบัติในการอำนวยการจราจร การป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา เพื่อนำไปปรับใช้ในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ให้ดียิ่งขึ้น โดยในเทศกาลสงกรานต์ 2566 ก็จะกำหนดหลักเกณฑ์และการประเมินในลักษณะนี้เช่นกัน  เพื่อให้เกิดการแข่งขันกันสร้างผลงานระหว่างหน่วยงาน ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายรัฐบาลต่อไป”

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img