พร้อมดำเนินการหากตรวจพบสิ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย ยอมรับ กังวลการยักย้ายข้อมูลเนื่องจากเจ้าตัวเชี่ยวชาญเทคโนโลยี
วันที่ 13 ก.พ.66 พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าว ภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงาน เพื่อหารือแนวทาง กรอบการทำงาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีสารวัตรซัว ว่าแนวทางการสืบสวนในคดีนี้ จะเริ่มจากตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบทรัพย์สิน บุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร พยานหลักฐานต่าง ๆ เมื่อพบข้อมูลต้องสงสัย หรือเข้าข่ายว่าผิดต่อกฎหมาย ก็จะดำเนินการตั้งเป็นคดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าผู้ถูกพาดพิงจะรู้จักกับใครก็ไม่กระทบการสืบสวน รวมถึงกรณีของนายพล จ จาน และหลายชายอดีต ผบ.ตร.ที่เป็นเพื่อนตำรวจอบรมหลักสูตรนายร้อยรุ่นเดียวกับสารวัตรซัว ส่วนการดำเนินการทางวินัยกับสารวัตรซัวนั้นเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งได้มีคำสั่งให้สารวัตรคนดังกล่าวออกจากราชการไว้แล้วจากกรณีขาดราชการ 15 วัน
นอกจากนี้ ยังมีแผนเชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองซึ่งเป็นผู้เปิดข้อมูลของสารวัตรซัวมาให้ข้อมูลด้วย ส่วนกรณีที่ผู้ต้องสงสัยมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีนั้น ยอมรับว่ามีความกังวลว่าอาจยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปต่างประเทศได้ เนื่องจากเว็บไซต์นี้เปิดมานาน แต่มั่นใจว่าสามารถตรวจสอบได้ เพราะอาชญากรรมย่อมมีร่องรอย
