วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จับมือร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ บริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชน และสถานีตำรวจ ทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียังมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 600-700 ราย แม้ตำรวจจะเร่งปราบปรามจับกุมทุกมิติมาต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนร้ายจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการกลโกง หลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และกระทบต่อระบบเศรษกิจของประเทศ ตำรวจ เพียงหน่วยเดียวจึงไม่สามารถแก้ปัญหา จำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะประชาชน ถือเป็นด่านแรกของการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นกุญแจ สำคัญในการแก้ไขปัญหา จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มไซเบอร์วัคซีนให้ถึงประชาชนโดยเร็วและมากที่สุด
ต้องขอบคุณนายดนันท์ สุ ภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่เข้ามาช่วยผลักดัน ไซเบอร์วัคซีน ให้ถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดย ตร. ได้รวบรวมรูปแบบลักษณะการกระทำผิด แผนประทุษกรรม วิธีการหลอกลวงที่เกิดขึ้นบ่อย วิธีการป้องกัน และ วิธีการตรวจสอบข้อมูลการกระทำผิด ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ สื่อเตือนภัย สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน (Cyber Vaccine) รู้เท่าทันรูปแบบกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพ 18 รูปแบบ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จะเป็นผู้จัดส่ง สื่อประชาสัมพันธ์กลโกงของ มิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในรูปแบบเอกสาร ขนาด A4 สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ และ โปสเตอร์ ขนาด A3 สำหรับสถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจัดส่งสื่อเอกสารประชาสัมพันธ์ภายในเดือนนี้ ระยะแรก จะ จัดส่งใบปลิว ขนาด A4 จำนวน 1,500,000 แผ่น ส่งให้กับประชาชนทั่วประเทศ และโปสเตอร์ ขนาด A3 จำนวน 500,000 แผ่น ส่งให้กับสถานีตำรวจทั่วประเทศ
นายดนันท์ กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มมิจฉาชีพมีกลโกง-วิธีการหลอกลวงประชาชนหลากหลายรูปแบบมส่งผลให้ทั้งภาคส่วนธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจํานวนมาก ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยได้ประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวเตือนภัยผ่านช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างใช้ชื่อ และตราสินค้าของไปรษณีย์ไทย เพื่อหลอกให้หลงเชื่อจนนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน เช่น หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลบัตรเครดิต หลอกให้โอนเงินชำระค่าพัสดุที่ไม่สามารถนำจ่ายได้ หลอกให้แลกคะแนนเพื่อรับรางวัล เป็นต้น อีกทั้งยังมีหน่วยงานอื่นๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้าง รวมทั้งการคิดค้นกลโกงรูปแบบใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและคนไทยบางกลุ่มยังรู้ไม่เท่าทัน จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกระจายประเด็นเหล่านี้ให้เข้าถึงทุกภาคส่วน ทำให้ประชาชน ทราบถึงภัยออนไลน์ และวิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นนโยบายเร่งด่วน ตร. ในการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามและแสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วนในการร่วมป้องกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน ที่เป็นสุจริตชน และเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ การจับมือร่วมกันของตำรวจและไปรษณีย์ไทยครั้งนี้ จะสร้างภูมิคุ้มกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ประชาชน เชื่อว่า จะช่วยให้คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลดลง หากประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้ง เบาะแสและสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน 191 หรือ 1599 หรือตำรวจไซเบอร์ 1441