วันที่ 9 พ.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัยรอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัยถวัลย์ภิยโย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉารอง ผกก.6 บก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.ฟ้าปรเมศร์ภูรินท์ชินธนโชติ รอง สว.กก.6 บก.ป. และข้าราชการตำรวจ ชป.กทม. กก.6 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นางสาวณัฐกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาที่ 650/2565 ลงวันที่ 4 เมษายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” จับกุมได้บริเวณ ร้านนวดแห่งหนึ่ง ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากในช่วงปี พ.ศ.2564 – 2565 ได้มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความในหลายพื้นที่ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เพื่อลงทุนซื้อขายเหรียญดิจิทัลผ่านบัญชีของผู้ต้องหา โดยมีรูปแบบคือแก๊งมิจฉาชีพจะปลอมรูปโปรไฟล์เป็นบุคคลชาวต่างชาติในแอปพลิเคชันหาคู่ เมื่อทำการพูดคุยจนผู้เสียหายไว้วางใจ จึงได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อขายเหรียญดิจิทัล และให้โหลดแอ ปพลิเคชันชื่อMMCOIN66.com ลงในโทรศัพท์มือถือจากนั้นจะมีการแจ้งเลขบัญชีเข้ามาเพื่อให้โอนเงินเข้าไปเพื่อลงทุนซื้อขายเหรียญดิจิทัล ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินจำนวนหลายราย คิดเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท ต่อมากลุ่มผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในหลายท้องที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นางสาวณัฐกานต์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ยืนอยู่บริเวณหน้าร้านนวดฯ จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับที่ยังมีผลบังคับใช้อีก 1 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 256/2565 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่า “กระทำผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” อีกด้วย
สอบถามปากคำ นางสาวณัฐกานต์ฯ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุประมาณปีพ.ศ.2553นางสาวณัฐกานต์ฯ ผู้ต้องหา ได้ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ประเทศมาเลเซีย จากนั้นได้ออกจากงานเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และได้กลับมาที่ประเทศไทย ช่วง พ.ศ.2563 หลังจากกลับมาได้มีเพื่อนซึ่งเคยทำงานด้วยกันติดต่อจ้างให้เปิดบัญชีธนาคารของประเทศไทยจำนวน 4 บัญชีได้รับค่าจ้างบัญชีละ 2,000 บาท และเพื่อนได้ให้สัญญาว่าจะให้ค่าจ้างรายเดือนอีกเดือนละ 2,000 บาท