หวังป้องกันเหตุ หลังพบว่ามีการยกพวกยิง ถล่มกันอุกอาจ เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป.5 ) ได้มีคำสั่งเป็นวิทยุราชการด่วน ถึง บช.น. ภ.1- 9 ก. ปส.ศ. และ ตชด. มีใจความระบุว่า จาก กรณี เหตุกราดยิงของกลุ่มวัยรุ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค.65 ที่ลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อ.เมืองอุบลราชธานี จว.อุบลราชธานี และเหตุดวลปืนศึก 2 โรงน้ำแข็งเมื่อวันที่ 8 ส.ค.65 บนถนนวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิง อ.พระนครศรีอยุธยาจว.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงเหตุการณ์อื่นๆ พร้อมทั้งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 45 และ 46 ) ปรับลดระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงวิทยุ ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0001 (ปป)/127 ลง 8 มิ.ย.2565 ให้ บช.น. ภ.1- 9 ก. ปส. ศ. และ ตชด. สำรวจสถานภาพของอาวุธปืนและกระสุนปืน และ หนังสือ ตร. ที่ 0007 .22 /3405 ลง 5 พ.ย.64 เรื่อง สืบสวนขยายผลเครือข่ายอาวุธปืนในความรับผิดชอบ และหนังสือ สง.ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป. 5 ) ด่วนที่สุด ที่ 0001 (ปป. 5 เรื่อง ให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายอาวุธออนไลน์ มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การควบคุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม รวมถึง หนังสือ ตร. ด่วนที่สุด เรื่อง กำชับการปฏิบัติและกำหนดมาตรการในการควบคุม และการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของทางราชการ ตามอ้างถึงเพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การควบคุมอาวุธปืนอาวุธสงคราม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำชับการปฏิบัติ และให้ทุกหน่วยดำเนินการ ตังนี้
มาตรการด้านการป้องกัน ให้ตรวจสอบข้อมูลประวัติบุคคลกลุ่มเป้าหมายและปรับปรุงการบันทึกข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ได้แก่ วัยรุ่น กลุ่มเสี่ยง เด็กแว้นแข่งรถจักรยานยนต์ ที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และชอบยิงปืน หรือกลุ่มวัยรุ่น นักเลงอันธพาล ที่มีพฤติกรรมก่อความวุ่นวาย ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น จับกลุ่มมั่วสุมในที่สาธารณะ มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม สร้างความหวาดกลัวต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
บุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตามผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวางในพื้นที่ เช่นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ประมูลรับเหมางานรายใหญ่กับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมักผูกขาดชนะการประมูล เป็นต้น บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่มีความประพฤติไม่เรียบร้อยหรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ต้องสืบสวนติดตามพฤติกรรมในเชิงลึก กลุ่มบุคคลหรือบุคคลผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้ โดยการข่มขู่และ,หรือมีพฤติกรรมข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรง
บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนหรือความผิดอื่นโดยใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด,บุคคลที่มีพฤติกรรมและ/หรือลักลอบผลิต จำหน่ายหรือขายอาวุธปืน โดยเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ต (online) และในทางลับ และให้หน่วยเฉพาะทาง เช่น สอท. และ บก.ป. ดำเนินการสืบสวนปราบปรามให้ได้ผล
บุคคล กลุ่มบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเฉพาะผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรายใหญ่ และผู้มีประวัติถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำซาก ตรวจสอบการจัดทำฐานข้อมูลปริมาณอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเฉพาะอาวุธปืนถูกกฎหมายให้เป็นปัจจุบัน โดยให้เป็นหน้าที่ของ หน.สน.,สภ. ประสานกับฝ่ายปกครองเพื่อพิสูจน์ทราบจำนวนอาวุธปืน ผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ตลอดจนรายละเอียดขนาดชนิดของอาวุธปืน สำหรับสถานีตำรวจที่มีร้านจำหน่ายอาวุธปืนในพื้นที่ให้ดำเนินการตรวจสอบยอดจำนวนการนำเข้า,ขาย,คงเหลือ ของอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้ถูกต้องตรงกับบัญชี พร้อมขอความร่วมมือให้จำหน่ายกระสุนปืนเฉพาะกับผู้ที่มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน,เครื่องกระสุนปืน (ป.4) มาแสดง และต้องเป็นกระสุนปืนตามขนาดที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเท่านั้น
ให้สืบสวนหาข่าว ติดตามพฤติการณ์ ความเคลื่อนไหว และจัดทำฐานข้อมูลบุคคลและสถานที่ เป้าหมายสำคัญ โดยเฉพาะแหล่งผลิต ซุกซ่อน จำหน่าย ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายในการปีดล้อมตรวจค้นในช่วงระดมให้ชัดเจน กำชับให้ผู้บังคับบัญขาทุกลำดับชั้นเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบอาวุธปืนคงคลังของทางราชการ และควบคุมการเบิกจ่ายอาวุธปืนของทางราชการทุกประเภทให้เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 (เดิม) อาวุธและกระสุนปืนของกรมตำรวจ ข้อ 3 และระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 34 (เดิม) บทที่ 8 คำแนะนำในการรักษาคลังและพัสดุและให้ผู้บังคับบัญชาทุกลำดับชั้นกำชับการปฏิบัติดูแลรักษาอาวุธปืนของทางราชการตามหนังสือ ตร.เรื่อง กำชับการปฏิบัติและกำหนดมาตรการในการควบคุม และการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของทางราชการ โดยให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
ในกรณีข้าราชการตำรวจที่ครอบครองอาวุธปืนเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองให้ตรวจสอบสถานภาพอาวุธปืนแล้วดำเนินการ ดังนี้ ในกรณีที่อาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตแล้ว ถูกทำลายหรือสูญหายให้แจ้งและส่งมอบใบอนุญาตต่อนายทะเบียนในพื้นที่หรือที่เกิดเหตุทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบเหตุ
ห้ามจำหน่ายอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนที่มีในครอบครองแก่ผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปีน -ห้ามโอนอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปีน ให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต-มาตรการด้านการปราบปรามที่ผิดกฎหมาย แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น นักเลงอันธพาล สถานบริการ และเพิ่มมาตรการกดดัน ให้สืบสวนปราบปราม ตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า/ผลิต/ซุกซ่อนอาวุธบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่คุ้มครองดูแลสถานบริการ สถานบันเทิง โดยเน้นการครอบครองอาวุธปืนแลที่ผิดกฎหมาย มิได้รับอนุญาต
การกำหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบนเส้นทางหลัก เส้นทางรองเส้นทางล่อแหลม เส้นทางคนร้าย เพื่อตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ อาวุธทุกชนิดที่อาจนำไปใช้ในการกระทำความผิด รวมถึงการครอบครองและพกพาอาวุธโดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และด่านตรวจดังกล่าวให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ ตร. กำหนด
สกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำการสุ่มตรวจค้นสัมภาระโดยสารสาธารณะ เช่น รถไฟ รถโดยสารประจำทาง ไม่ประจำทาง หรือสัมภาระที่ไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ และสกัดกั้นการลักลอบซื้อขาย นำเข้า และส่งออก อาวุธผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
พร้อมทั้งให้ทุก สน.,สภ. ที่มีทำการไปรษณีย์ หรือบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนในพื้นที่ให้ประสานขอความร่วมมือเพื่อสุ่มตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยที่ส่งทางไปรษณีย์หรือบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนตลอดจนให้ความร่วมมือแจ้งข้อมูลกรณีตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยที่อาจเป็นสิ่งของผิดกฎหมายเพื่อร่วมกันตรวจสอบโดยละเอียดจากเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามมาตรการของ ตร. หรือของหน่วยปฏิบัติให้เพิ่มเป็นเป้าหมายสำคัญในการระดมกวาดล้างฯ ด้วยทุกครั้ง ได้แก่บุคคล กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาวุธสงครามวัตถุระเบิด บุคคลตามหมายจับ บุคคลพันโทษ และผู้ต้องหาที่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในความผิดดังกล่าว รวมทั้งผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างรวมถึงบุคคล กลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักลอบผลิต จำหน่าย หรือขายอาวุธทั้งโดยปกปิดและโดยเปิดเผย ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภท ทั้งอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปีนโดยผิดกฎหมายหรือมิได้รับอนุญาต -บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมลักลอบค้าอาวุธปืน อาวุธสงครามหรืออาวุธร้ายแรงอื่น เข้มงวด กวดขัน การพกพาอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย การพกพาเข้าไปในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่สาธารณะสำคัญต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง สถานที่จัดการแสดง การแข่งขันกีฬา และสถานที่อื่นที่มีประชาชนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
กลุ่มบุคคล หรือบุคคลผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้โดยการข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงกลุ่มผู้มีอิทธิพล นักเลงอันธพาล วัยรุ่นที่ประพฤติตนวุ่นวายในสังคมก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือมีพฤติการณ์ประทุษร้ายต่อทรัพย์ ชีวิต ร่างกายและเพศกรณีมีการจับกุมอาวุธปืน ให้ดำเนินการ ส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตร. หรือ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1-10 ตรวจสอบและยิงเก็บปลอก หัวกระสุน เพื่อจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลและตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับคดีที่มีการใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด ให้สืบสวนขยายผลย้อนหลังเกี่ยวกับประวัติการครอบครอง แหล่งที่มาของอาวุธปืน ว่าเป็นของผู้มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง หรือไม่ อย่างไร อาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้เสนอขอเบิกถอนใบอนุญาตต่อนายทะเบียน
ในกรณีผู้ต้องหาเป็นเด็กและเยาวชน ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ.2546 กับผู้ปกครองหรือเจ้าของอาวุธปืนอีกส่วนหนึ่งด้วยดำเนินการกรณีมีหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ และกรณีผู้มีอิทธิพลที่มีมือปืนให้ความคุ้มครอง การปราบปรามการค้าอาวุธข้ามชาติ กำชับให้ บช.ก.หน่วยรับผิดชอบหลักต้องสืบสวนเชิงลีก รวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมชัดเจนเพื่อพิสูจน์ความผิดให้ศาลพิพากษาลงโทษได้ให้มีมาตรการด้านการประชาสัมพันธ์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ วิทยุ โทรทัศน์ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ให้ทราบถึงโทษของการผลิต ครอบครองใช้อาวุธต่าง ๆ และอันตรายที่เกิดจากการใช้อาวุธ รวมถึงช่องทางการรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้ผลิต ครอบครอง จำหน่ายใช้อาวุธโดยผิดกฎหมาย ร่วมกับหน่วยงานหรือสถานศึกษาจัดให้มีกิจกรรมงาน ให้เด็กเยาวขน กลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มเสี่ยงไม่ให้มั่วสุมกันหรือเสี่ยงต่อการทำผิดขึ้นได้
การควบคุมการปฏิบัติความผิดให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ให้ได้ข้อเท็จจริงตามที่กฎหมายกำหนดให้ครบทั้งกระบวนการ ในกรณีตรวจพบการนำอาวุธปืนที่เข้าข่ายความผิดตามไปกระทำผิดให้แจ้งเหตุและส่งมอบใบอนุญาต ผู้จำหน่าย ผู้โอน ผู้ครอบครอง แล้วดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัด
ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม กำกับดูแล การปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีตำวจและคู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม (Standard Operating Procedure : SOP) ควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด
สำหรับการรายงานกรณีที่มีเหตุเร่งด่วนให้รายงาน ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในสายงาน ปป.หรือ รอง จตช (ช่วยงาน ปป) ที่รับผิดชอบทราบ โดย ผบ.เหตุการณ์หรือ หน.สน.สภ. เป็นผู้รับผิดชอบ การรายงานโดยเร็วที่สุดและรายงานตามลำดับชั้นตามสายงานปกติ (ผ่าน ศปก.ตร.) อีกทางหนึ่งด้วยเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ใน”คำสั่งดังกล่าวระบุ”
ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านป้องกันและปราบปราม ได้เคยออกคำสั่ง ให้ทุกหน่วยมีมาตราการเชิงรุก ให้มีการปิดล้อมตรวจค้นสืบสวน เอาผิดทั้งบุคคลและขบวนการค้าทางออนใลน์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการออกคำสั่งของ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในครั้งนี้เพื่อให้เป็นตามนโยบายเชิงรุกของ รอง ผบ.ตร. (ปป) และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.
