นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงการทำงานของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะครบ 4 ปี ว่า ต้องมองย้อนกลับไปว่า การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 เริ่มต้นมาจากการที่ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง คสช. จึงเข้ามาเพื่อเฝ้าระวังไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งของบ้านเมืองขึ้นใหม่ รวมไปถึงป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ความรุนแรง ที่อาจถึงขั้นนองเลือดกันบนท้องถนน คสช. จึงเข้ามาวางกฎเกณฑ์ กติกาใหม่ชูการปฎิรูปประเทศ ขณะเดียวกันเราก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า คสช. คือ กลุ่มอนุรักษ์นิยมเก่ากับกลุ่มอำนาจเก่า พอเข้ามาบริหารประเทศ เริ่มต้นที่จะสร้างแนวคิด “บ้านเมืองที่ดีกว่า” จึงมีการออกแบบรัฐธรรมนูญ มีการปฎิรูปประเทศในหลายประเด็น กำหนดยุทธศาสตร์ชาติตามมา” รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อไปว่า แต่ดูเหมือนว่า เมื่อมาถึงจุดๆนี้ จากเดิมทีที่ คสช.จะเข้ามาดูแลบ้านเมือง เพื่อให้เดินหน้าตามที่ตัวเองปรารถนาคือ บ้านเมืองที่ดี ซึ่งต้องยอมรับว่ามีความพยายามอย่างน่าชื่นชม แต่พอในปีนี้หลายคนคงเกิดความรู้สึกว่า คสช. ที่คิดว่า จากเดิมจะอยู่เบื้องหลัง วางกฎเกณฑ์กติกาให้เดิน ก็กลัวว่า สิ่งที่ตัวเองทำมาจะเสียของก็เลยจะมาเป็นผู้เล่นเอง เพราะไม่ แน่ใจว่า จะเป็นผู้ชักใยเบื้องหลังแล้วจะสามารถทำได้ตาม ที่ตั้งใจไว้ ดูได้จากท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. หรือการออกมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเล่นการเมืองแน่นอน
นายศุภชัย กล่าวว่า ดังนั้นจึงมีคำถามว่า รัฐธรรมนูญที่ออกกฎหมายทำให้พรรคการเมือง นักการเมืองทำงานลำบาก โดนจับตรึงไว้ แล้วกติกาที่กำหนดไว้บล็อคคนอื่น แล้วพรรคตัวเองก็ต้องมาใช้กติกานี้ด้วย แล้วจะทำอย่างไร
“ในส่วนประเด็นนายกรัฐมนตรีคนในหรือคนนอกนั้น ผมขอย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่าเราชูนายกรัฐมนตรีคนใน ซึ่งเป็นไปตามกติกาและเป็นไปตามลำดับ แต่ถ้าปรากฎว่านายกรัฐมนตรีคนในไม่อาจเกิดขึ้น เราก็ต้องไปที่นายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะถ้ายังหานายกรัฐมนตรีไม่ได้แล้วรัฐธรรมนูญกำหนดให้ คสช.บริหารงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรีให้เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำให้เร็วที่สุด ส่วนพรรคภูมิใจไทยพูดอยู่เสมอว่าเราจะตกลงอะไรก็ต้องว่ากันเมื่อรู้ผลการเลือกตั้งเท่านั้น” นายศุภชัย กล่าว
สำหรับการปฎิรูปประเทศของ คสช.เสียของและเสียเวลา ตลอด 4 ปีหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า อย่างน้อยๆ ก็ทำให้คนไม่ตีกัน แต่ก็หวังว่าจากนี้ไปการปฎิรูปประเทศตามหัวข้อต่างๆของคสช. จะทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งเราต้องยอมรับว่าในยามนี้การปฎิรูปประเทศไม่ใช่ของง่าย และหากกพล.อ.ประยุทธ์ จะมาเล่นการเมือง และตัดสินใจอยู่ในระบอบรัฐสภา คสช.มาอยู่ด้วยกันกับพรรคการเมือง นักการเมือง ก็เชื่อว่าจะร่วมกันทำงานได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อมให้ความร่วมมือ หากประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์สูงสุด