วันที่ 28 มีนาคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่ ศปก.ตร.ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ผอ.ศจร.ตร), พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ สงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.เอกราช มสังกาศ ผบก.ทล. ร่วมแถลงการเตรียมความพร้อมสำหรับการอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกัรัฐมนตรี มีดำริให้ ตร. เตรียมอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่จะถึงนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ตนในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. รับผิดชอบ ซึ่งในวันนี้ได้เรียกประชุมตำรวจทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อม โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 80,000 นาย ซึ่ง ศจร.ตร. ได้กำหนดนโยบายด้านการจราจรโดยมีจุดเน้นดังนี้ 1.) การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณรถเข้า-ออก กชม. ในช่วงวันที่ 11-17 เม.ย.65 เป็นจำนวนมากกว่า 6.7 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าสงกรานต์ 2564 ที่มีจำนวนประมาณ 6.4 ล้าน โดยคาดว่าประชาชนจะเริ่มเดินทางตั้งแต่ 8 แม.ย.65 และปริมาณรถที่จะออกมากที่สุด ในวันที่ 12 และ 13 เมย.65 ปริมาณรถที่จะทม. มากที่สุดในวันที่ 16 และ 17 เม.ย.65 ตร. ได้ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ตั้งแต่การสำรอง เส้นทางเสี่ยง และ เส้นทางลัด ประสานหน่วยงานที่กี่ยวข้อง ให้คืนพื้นผิวจราจรให้เสร็จภายในวันที่ 8 เมย 65 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรในแต่ละเส้นทาง บริเวณทางร่วมทางแยก และหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถ โดยมีศูนย์ควบคุมสั่งที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีสายด่วน 1193 หรือเพจ facebook ตำรวจทางหลวง และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.12 ) สายด่วนหมายเลข 1197 (พื้นที่ กทม) เพื่อให้บริการประชาชน ในการสอบถามเส้นทาง รับแจ้งอุบัติเหตุ
2.) ห้องพักฟรีทั่วทย จากใจตำรวจทางหลวง มีหน่วยบริการ 201 หน่วยทั่วประเทศโดยให้บริการ ของหน่วยบริการตำรวจทางหลวง ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.booking.hwpdth.com มีห้องพักผ่อนฟรี สำหรับให้ประชาชนแวะพักเหนื่อย พร้อมบริการเครื่องดื่มและขนมทานเล่น ห้องน้ำสะอาดซึ่งทุกหน่วยบริการมีมาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ที่ได้มาตรฐาน, 3.) ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร 2 ฉบับ คือ (1) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง (Reversible Lane) ขาออก กทม. 9 เส้นทาง 10 จังหวัด ระยะ 217 กม. ระหว่าง 8-14 เม.ย.65 และขาเข้า กทม. 9 เส้นทาง 13 จังหวัดระยะทาง 228 กม. ระหว่าง 14-19 เม.ย.65 เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว (2) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ขึ้นไป เดินในถนนบางสาย ตั้งแต่ 12-13 เมย.65 และตั้งแต่ 16-18 เมย.65 เส้นทางห้ามวิ่ง 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 194 กม.
ทั้งนี้ สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถยื่นคำขอขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpoth.com โดยเริ่มเปิดระบบขออนุญาตทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ย.65 เป็นต้นไป
4.) การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลักดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดรวมทั้งกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนใน4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ (1) ขับรถย้อนศร, (2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณฟจราจร, (3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า, (4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว, (5)ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และการกระทำผิดเกี่ยวกับเครื่องหมายทางม้าลายโดยในการตรวจจับการกระทำผิด จะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จูดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน(Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 4 เม. ย.65 เป็นต้นไป และกรณีเกิดอุบัติเหตุตำรวจจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ชับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการสอบสวนขยายผล ในกรณี ที่เด็กหรือเยาวชนดื่มสุราแล้วมาขับรถ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายสุรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และบุคคลที่ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือบุคคลที่ และบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกฮอล์ พ.ศ.2551 อย่งเข้มงวด (การห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม และ ห้ามดื่ม-ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอสถานที่กฎหมายกำหนด และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี), และ 5.) มาตรการเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุ ทุกสถานีตำรวจ จัดทำฐานข้อมูลบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ได้แก่ บัญชีบุคคลเสี่ยง บัญชีร้านค้าเสี่ยง บัญชีกิจกรรมเสี่ยง เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการเข้าไปประชาสัมพันธ์ ป้องปรามหรือตักเตือนก่อนทำผิด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์ ตร. มูลนิธิเมาไม่ขับ และบริษัทวิริยะประกันภัย ได้จัดทำแคมเปญ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการ “อาสาตำจราจร” โดยการรณรงค์ให้ประชาชนส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลสงกรานต์ 2565 (ตั้งแต่ 11- 17 เม.ย.65 ที่บันทึกเหตุการณ์การกระทำผิดกฎจราจรสำคัญที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือบันทึกอุบัติเหตุสำคัญและสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในทางคดีของตำรวจได้ ซึ่งจะคัดเลือกจากคลิปที่ประชาชนส่งมา จำนวน 7 คลิป และมอบรางวัลให้คลิปละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท