หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผู้ช่วยฯ โจ๊ก" แถลงผลงานศพดส.ตร. รวบ 6 ผู้ต้องขนแรงงานผิดกฏหมายเข้าไทย

“ผู้ช่วยฯ โจ๊ก” แถลงผลงานศพดส.ตร. รวบ 6 ผู้ต้องขนแรงงานผิดกฏหมายเข้าไทย

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ตนเป็นหัวหน้าชุดในการดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจนสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดที่ร่วมกันลักลอบขนบุคคลต่างด้าว

โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกุล ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร และ พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้ จนสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดที่ร่วมกันลักลอบขนบุคคลต่างด้าวได้จำนวน 6 ราย และสามารถจับกุมได้แล้ว ทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย(1) นายอุทัย แซ่ม้า อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 273 ม.8 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชรที่ จ.243/64 ลงวันที่ 8 พ.ย.64 ทำหน้าที่ขับรถขนบุคคลต่างด้าว และเป็นผู้ขับขี่รถกระบะที่เกิดอุบัติเหตุ(2) นายจิรวิทย์ แซ่ม้า อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 62 ม.26 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชรที่ จ.286/64 ลงวันที่ 20 ธ.ค 64 ทำหน้าที่จัดหาแรงงานจากฝั่งประเทศเมียนมา และขับรถนำทาง( 3.) นายเลา แซ่จ้าง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 28 ม.8 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชรที่ จ.287/64 ลงวันที่ 20 ธ.ค.64 ทำหน้าที่ขับรถขนบุคคลต่างด้าว(4) นายสุชัจจ์ จังพินิจกุล อายุ 21  ปี บ้านเลขที่ 7 ม.8 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชรที่ จ.288/64 ลงวันที่ 20 ธ.ค.64 ทำหน้าที่ขับรถขนบุคคลต่างด้าว(5)นายไชยา วัชรวนา อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 56/2 ม.5 ต.ท้องฟ้า อ.บ้านตาก จ.ตาก เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชรที่ จ.289/64 ลงวันที่ 20 ธ.ค.64 ทำหน้าที่คอยรับแรงงานที่จุดพักคอย เพื่อส่งต่อเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในต่อไป

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย คือนายทราย เวียนตู อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 50/6 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ต.ไร่ขิง ต.สามพราน  จ.นครปฐม  ทำหน้าที่เป็นลูกน้องให้กับนายจิรวิทย์ฯ ซึ่งเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพฤติการณ์ของกลุ่มผู้กระทำผิดรายนี้ จะมีนายจิรวิทย์ฯ และนายทรายฯ เป็นผู้คอยประสานงานกับชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อที่ฝั่งประเทศเมียนมา เพื่อคอยรอรับขนแรงงานต่างชาติขึ้นรถกระบะที่จัดเตรียมไว้ โดยมีนายอุทัยฯ นายสุชัจจ์ฯ และนายเลาฯ เป็นคนขับรถขนแรงงานไปส่งยังจุดพักคอยต่อไปที่บริเวณจ.ตาก เพื่อส่งต่อให้กับนายไชยาฯ ซึ่งจะเป็นผู้ทำหน้าที่ประสานชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ซึ่งแฝงตัวอยู่ในไทย มารับกลุ่มแรงงานต่างด้าวเหล่านี้เพื่อไปส่งต่อในพื้นที่ชั้นใน หรือเดินทางไปยังประเทศที่สามต่อไป

โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องในข้อหา “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร และร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.นี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ช่วยกันสอดส่องการกระทำผิด  ของขบวนการข้ามชาติเหล่านี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน ๑๕๙๙ หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก  https://www.facebook.com/antihumantraffickingpolice เพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป

โดยกรณีดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการปราบปรามขบวนการลักลอบขนบุคคลต่างด้าวเข้ามาในไทย พร้อมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการตัดวงจรการกระทำผิดของกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ที่ได้อาศัยช่องทางธรรมชาติตามชายแดนของไทย ลักลอบนำบุคคลต่างด้าวข้ามชายแดนไทย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม หาประโยชน์โดยมิชอบจากกลุ่มบุคคลต่างด้าวที่ต้องการเดินทางข้ามประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และยังส่งผลกระทบต่อมาตรการความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคมในวงกว้าง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img