ผู้สมัครเลือกตั้ง นายกอบต.เมืองแปดริ้วร้อง ปปป.และ กกต.กลางตรวจสอบนักการเมืองท้องถิ่นช่วยเครือญาติ เลือกตั้ง เมื่อ วันที่ 28 พย.ที่ผ่านมาพร้อมยื่นหลักฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแจกของให้ชาวบ้าน ลงเฟชบุ๊กชี้นำอีก
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15 ธค.64 ที่กองบังคับการตำรวจปราปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป. )ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.
นายพชร พูล เจริญ ประธานเครือข่ายธรรมาภิบาลไทย นายสมชาย ชมยิ้ม ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.หอมศิล อ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา และ นายจิรพันธ์ุ ฮวดตี๋ ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เดินทาง เข้ายื่นหนังสือ ต่อ ร.ต.อ.ปิยะมิตร บุญนำพา รอง.สว.สอบสวน กก.2.บก.ปปป.ให้ตรวจสอบ นักการเมืองระดับท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่ จว.สมุทรปราการที่มีการลงเฟสบุ๊กช่วยเหลือเครือญาติในการหาเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง อบต.ที่ผ่านมา
นายพชร กล่าวว่าตนเองได้รับการร้องเรียน จากผู้สมัครและชาวบ้านผู้มีสิธิ์เลือกตั้ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 ตุค.64 ที่ผ่านมานาย จิรพันธ์ุ ชาวบ้านได้เคยไปยื่นเรื่องขอคัดค้านต่อ กกต.จว.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะมีการมีการเลือกตั้ง จริงในวันที่ 28 พย.เนื่องจากพบการกระทำความผิดระเบียบกฎหมายการเลือกตั้ง ท้องถิ่น พศ.2562 โดยพบมีเครือญาติของผู้สมัครรายนี้มีการนำสิ่งของเครื่องใช้ อุปโภคบริโภค ไปแจกจำนวนมากให้กับชาวบ้านในงานทำบุญทอดกฐินที่วัดหนึ่ง ในพื้น ที่ จว.สมุทรปราการ และมีภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐานชัดเจนจึงได้ยื่นเริ่องไว้กับทาง กกต.จังหวัดไปแล้ว
นาย พชร กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 1 ธค.64 นายสมชาย ผู้สมัครลงเลือกตั้งยังพบว่าญาติของผู้สมัครรายนี้ยังคงลงข้อความในเฟสบุ๊กมีเนื้อหาข้อความเชื้อชวนชักจูงหรือ ชี้นำ ซึ่งเข้าข่ายน่าจะมีความผิด จึงได้ เก็บรวบรวมหลักฐานและยื่นเรื่องไป อีกครั้ง เพื่อให้ทาง กกต.วินิจฉัย หรือ ดำเนินการตรวจสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ทาง กกต.จังหวัด ไม่มีการสั่งการอย่างใดทั้งที่มีหลักฐานส่งไปให้แล้ว
หลังจากเลือกตั้ง 28 พย.เสร็จสิ้น นายสมชาย ผู้สมัคร เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรับเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ มีการร้องเรียนและยื่นหลักฐานต่างๆให้ไปก่อนหน้าจะมีการเลือกตั้ง กับผู้สมัครรายนี้ และเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่
นายสมชาย กล่าวตนเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบตนเองที่มีเครือญาติเป็นนักการเมืองท้องถิ่นช่วยหาเสียงซึ่งตามกฎข้อบังคับห้ามมิให้ข้าราชการเข้าไปชี้นำเหลือช่วยเหลือในทางตรงหรือทางอ้อมจึงได้เดินทางมาร้องกับทาง ปปป.และ กกต.กลาง เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหากพบเป็นการกระทำความผิดในครั้งนี้
