นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ คสช. แต่งตั้งแกนนำพรรคพลังชล ช่วยงาน คสช. ว่า ไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่นอกพรรค และบนเงื่อนไขที่ตนไม่ทราบ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯนั้น ตามที่ฟังคำชี้แจงคือการเข้าไปช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งถือเป็นงานที่ต้องใช้ความร่วมมือจากนักการเมือง ส่วนจะมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกหลายอย่างหรือไม่ ตนมองว่า หากไม่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทย ตนก็ยอมรับได้
นายอนุทิน ยังกล่าวตอบคำถามถึงโอกาสเข้าร่วมงานกับรัฐบาล คสช. ว่า ปัจจุบันทางพรรคได้ให้ความร่วมมือในการทำงานและทำประโยชน์ให้กับประเทศ โดยไม่ต้องมีการต่อรอง หรือมีประโยชน์ใดเข้าแลก
ผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสที่จะไปช่วยงานรัฐบาลคสช. ก่อนการเลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวตอบว่า ช่วยงานแบบไหน อย่างกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมไปประชุมที่ จ.บุรีรัมย์ ในฐานะที่จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทย ตนต้องเข้าไปนำเสนอ หรือพาชาวบ้านไปนำประเด็นปัญหาไปแจ้งให้กับ ครม. หรือ ครม. ต้องการทราบประเด็นปัญหา ตนต้องส่งข้อมูลไปยังรัฐบาล ส่วนโอกาสที่จะร่วมเป็นรัฐบาลคสช. ภายหลังการเลือกตั้งนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันหลังเลือกตั้งและได้เสียง ส.ส.เข้าสภา
“ผมไม่เชื่อว่าการให้ตำแหน่งตอนนี้แล้วจะกลายเป็นการสนับสนุนใครหลังเลือกตั้ง เพราะอย่าลืมว่าต่อให้ได้ตำแหน่ง ทุกคนต้องผ่านการเลือกตั้ง ลงสนามเลือกตั้งอยู่ดี หากผ่านการเลือกตั้งแล้ว เห็นยอดส.ส.แล้ว ค่อยมาคุยกัน แต่หากมาชวนผมวันนี้ แล้วจะไม่เลือกตั้ง แล้วอยู่กันต่อไปอีก 10 ปี ค่อยมาว่ากัน” นายอนุทิน กล่าวพร้อมหัวเราะ
นายอนุทิน ยังย้ำว่า การจะร่วมรัฐบาลใดหรือไม่ ตนมองว่าการได้ตำแหน่งปัจจุบันคงไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดว่าจะเป็นเสียงสนับสนุน เพราะสิ่งที่ชี้ขาดได้คือ การได้ ส.ส.เข้าสภา ซึ่งตนยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้ส.ส.เดินเข้าสภาอย่างแน่นอน แต่จะมีกี่คนต้องพิจารณาหลังการเลือกตั้ง ขณะที่การเสนอบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนเป็นนายกฯ นั้น พรรคภูมิใจไทยจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เพียงชื่อเดียว