พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เช่นเดียวกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน รัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถ โดยให้ประชาชนมีรายได้ที่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญคือมีปัญหาตรงที่ในแต่ละพื้นที่นั้น ลูกหลานได้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนแก่คนเฒ่าอยู่บ้าน ร่วมถึงปัญหาหนี้สิน ซึ่งหมักหมมมานาน มีการกู้ยืมเพื่อมาทำไร่ทำนา แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถยกหนี้ให้ได้ แต่เราพยายามแก้ไขปัญหาทั้งระบบ จึงต้องเดินหน้าทำต่อไป
“ใครก็ตามที่มีเจตนามาต่อว่ารัฐบาล หากเจตนาบริสุทธิ์มันก็ดูออก รวมถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์เราก็ดูออก ดังนั้นผมจะสนในเจตนาที่บริสุทธิ์ เพื่อทบทวนและแก้ไขปัญหา ซึ่งผมไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ จึงต้องรับฟังความเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ถ้าส่วนราชการไม่ฟังประชาชน ทุกอย่างก็เดินหน้าไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หวังว่าที่พูดมาทั้งหมดนี้คงไม่ยากที่จะเข้าใจ และกล่าวว่า “ผมไม่ได้เก่งกว่าท่าน ท่านเก่งกว่าผมอีก เพราะท่านหาประเด็นเขียนได้ทุกวัน ผมหาประเด็นเขียนทุกวันอย่างท่านไม่ได้ วันนึงท่านก็มานั่งจดๆ แล้วก็มาเขียนเป็นข่าว เก่งนะ ส่วนผมกว่าจะทำอะไรได้ ทั้งคิดเอง และที่เขาเสนอมา ร่วมถึงอ่านเอกสาร กว่าจะพูดออกมาเช่นนี้ได้ ผมเหนื่อยแต่ไม่บ่น เพราะเดี๋ยวจะหาผมบ่นเพื่อทวงบุญคุณ ซึ่งเป็นอย่างนี้ทั้งปี ถามว่าคนเราเหนื่อยไม่เป็นหรืออย่างไร เวลานักข่าวเหนื่อยก็บ่นว่าเหนื่อย แล้วนายกฯบ่นไม่เป็นหรือไง เส้นทางการเป็นนายกฯของผมไม่ใช่ทางการเมือง แต่ก็มาทำงานการเมือง ขออย่าได้เขียนบิดไปมา เพราะจะเป็นประโยชน์ให้คนไม่หวังดี”