น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Rosana Tositrakul‘ กล่าวถึงประเด็นที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้าคสช. รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเครือข่ายภาคประชาชนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับ คสช. ที่จะใช้ มาตรา 44 อุ้ม 2 ค่ายบริษัทมือถือใหญ่ ว่า “ทาง คสช. ก็จะพิจารณาเรื่องทีวีดิจิทัล เรื่องมือถือยังไม่ได้พิจารณา ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
น.ส.รสนา กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ยังต้องจับตากันต่อไปว่า การพูดเช่นนี้ เป็นเพียง”การถอยทางยุทธวิธี” ของทหารเท่านั้นหรือไม่ เป็นการลวงให้สังคมตายใจหรือไม่ เมื่อสังคมหยุดจับตาเมื่อไหร่ การอุ้มทุนค่ายมือถือก็จะย้อนกลับมาอีกหรือไม่ พล.อ ประวิตรเคยกล่าวว่ายินดีจะลาออกถ้าประชาชนไม่ต้องการ หลังจากท่านกล่าวคำพูดนั้น ก็มีสื่อและประชาชนเปิดช่องทางการโหวตเพื่อสนองเจตนาของท่าน ปรากฎเพียงเวลา 1 อาทิตย์ มีเสียงโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ในหลายกลุ่มเป็นหมื่นและเป็นแสนเสียงที่เห็นชอบให้พล.อ ประวิตรลาออกจากตำแหน่ง แต่แล้วท่านก็กลับคำว่าจะลาออกต่อเมื่อป.ป.ช ตัดสินว่าท่านผิด จึงจะออก ซึ่งคงต้องรอชาติหน้า ที่ป.ป.ช จะกล้าตัดสินว่าท่านผิดต้องพ้นจากตำแหน่งโดยไม่ต้องลาออก ใช่หรือไม่
น.ส.รสนา กล่าวต่อไปว่า ขอยกโคลงโลกนิติว่าด้วยกฎระเบียบของโลก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาอย่างไทยแต่โบราณว่าด้วยจริยธรรมของผู้ปกครองที่ดี ที่ท่านนายกรัฐมนตรีสมควรมอบหมายให้ครม. เลือกไปท่องกันคนละบท นอกเหนือจากการท่องกลอนท่านสุนทรภู่ ซึ่งเข้าใจผิดว่าเป็นจินดามณี ของพระยาโหราธิบดี อย่างบทดังต่อไปนี้
“งาสารฤาห่อนเหี้ยน หดคืน
คำกล่าวสาธุชนยืน อย่างนั้น
ทุรชนกล่าวคำฝืน คำเล่า
หัวเต่ายาวแล้วสั้น เล่ห์ลิ้นทรชน
คำแปล : คำพูดของคนดีย่อมมีความสุจริตมั่นคงไม่เปลี่ยนแปร เปรียบเหมือนงาช้างที่งอกแล้วไม่หดคืน แต่คำพูดของคนชั่ว(ทุรชน)ย่อมกลับกลอกไปมาเหมือนหัวเต่าที่ผลุบๆโผล่ๆ”
“จริยธรรมพื้นฐานที่คนโบราณสอนนี้ ขึ้นอยู่กับพวกท่านๆทั้งหลายว่าจะเลือกเป็น “งาช้างสารที่งอกแล้วไม่หดคืน” หรือจะเลือกเป็น”หัวเต่า ยาวแล้วสั้น เล่ห์ลิ้นทรชน”!!!” น.ส.รสนา กล่าว
[fb_pe url=”https://www.facebook.com/rosana.tsk/posts/1897336530310843″ bottom=”30″]