นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่การค้าการส่งออก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การอำนวยความสะดวกทางการค้าถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผู้ประกอบการให้แข่งขันได้ กรมฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกหนังสือสำคัญการนำเข้าและส่งออก ได้เดินหน้าพัฒนาบริการ สู่อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็น SMART สามารถดำเนินกระบวนการส่งออกได้โดยไม่ต้องเดินทางมายังหน่วยงานให้บริการ โดยที่ผ่านมาได้พัฒนางานบริการออกหนังสือสำคัญ ได้แก่ ใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออกสินค้า หนังสือรับรองการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ตั้งแต่บริการแบบManual ที่ต้องเดินทางมาหน่วยงานยื่นคำขอ พร้อมแนบเอกสารแบบกระดาษ เริ่มจาก 5 ขั้นตอน ใช้เวลาถึง 3 วัน และการยื่นคำขอทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังต้องแนบเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ จึงลด 4 ขั้นตอน ใช้เวลา 30 นาทีต่อฉบับ ซึ่งการปรับให้บริการล่าสุดสามารถลดการเดินทางของคนมาติดต่ออย่างกลมได้แล้วร้อยละ 10-15
จนปัจจุบัน เป็นรูปแบบการยื่นคำขอและเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังต้องลงนาม เหลือเพียง 3 ขั้นตอน 15นาที และบางรายการสามารถลงนามแบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดเหลือ 2 ขั้นตอน ใช้เวลาเพียง 10 นาที รวมทั้งรูปแบบไร้กระดาษ หรือ Paperless ในการเชื่อมโยงระบบการแลกเปลี่ยนหนังสือรับรองถิ่นกำหนดสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-From D ซึ่งได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในอาเซียน 10 ประเทศ ที่ทำได้แบบเรียวไทม์
ทำให้ในภาพรวมสามารถลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ได้ประมาณร้อยละ 5-10 แต่ยอมรับว่า มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยยังคงต้องการเอกสารไว้ประกอบ โดยเฉพาะกรณีประเทศปลายทางยังไม่มีความพร้อมทางอิเล็กทรอนิกส์
แต่ในอนาคตกรมฯ ได้วางแผนการพัฒนาระบบโดยเน้นประชาชน เป็นศูนย์กลาง สู่ SMART ที่สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลระหว่างหน่วยงานแทนการแนบเอกสารแนบ เข้าใช้งานระบบบริการ ณ จุดเดียว ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ และสามารถพิมพ์หนังสือรับรองต่างๆได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเดินทางมาที่หน่วยให้บริการ
