เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังคงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานรวบรวมพยานหลักฐานอีกสักระยะหนึ่ง โดยในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนพยานเพิ่มเติม โดยจะเป็นการเข้าไปสอบพยานที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นผู้ที่รับรู้และมีข้อมูลที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง โดยเมื่อวานนี้ได้สอบพยานสำคัญที่มีผลต่อรูปคดีไป 2-3 ปาก ถึงตอนนี้มั่นใจว่าจะสามารถจะดำเนินการกับผู้ที่ถูกกล่าวหาได้
พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจะมีการเชิญภรรยาของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาเป็นผู้เสียหายร่วมหรือไม่นั้น เบื้องต้นจากการพิจารณาพบว่าการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดที่เกิดกับผู้บัญชาการเรือนจำ และเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐ จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบสวนในฐานะผู้เสียหายร่วม แต่หากพนักงานสอบสวนเห็นว่า สำนวนคดียังต้องมีส่วนใดเพิ่มเติม ก็อาจเรียกตัวมาสอบปากคำให้เป็นผู้เสียหายร่วมได้ ทั้งนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้นยังไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และขบวนการวางแผนแหกคุกในครั้งนี้ อีกทั้งจากหลักฐานที่มีอยู่ในตอนนี้พบว่าผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวมีไม่มาก ส่วนนายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 42 ปี และนายณัฐพล หรือท๊อป นรการ อายุ 30 ปี ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้จากคดีติดตัวตามหมายจับค้างเก่า เป็นเพียงผู้ถูกใช้หรือผู้รับรู้เหตุการณ์ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้กันไว้เป็นพยาน ยังไม่ได้มีการแจ้งขิ้หาดำเนินคดีแต่อย่างใด