ส่วนการลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของพรรคดีขึ้นหรือไม่ นั้น ตนมองว่าการทำหน้าที่ ส.ส. ที่ได้รับเลือกในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดประเทศจะต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพราะมีปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนอีกมากที่ต้องได้รับการแก้ไข
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะสนับสนุนด้วยความเคารพ ซึ่งเห็นว่าการโหวตเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ใช่อำนาจของ ส.ส. เพียงกลุ่มใด แต่ต้องเป็นมติพรรค ทั้งนี้การที่จะกำหนดสัดส่วนกรรมการบริหารพรรคคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่จะเป็นการตัดสินใจโดยมติพรรค เชื่อว่าทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งมั่นใจว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะรับฟังปัญหาของ ส.ส.ทุกคน ผ่านกระบวนการบริหารพรรคที่เป็นประชาธิปไตยที่เป็นธรรม
ทั้งนี้ไม่ได้ยืนยันว่าจะเสนอตัวแทนกลุ่ม 6 ส.ส. เข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ และย้ำว่าตั้งแต่แสดงจุดยืนในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และทำนุบำรุงสถาบันชาติ – มหากษัตริย์เป็นจุดยืนในการทำงาน ซึ่งไม่เคยต่อรองตำแหน่งใดกับผู้ใหญ่ในพรรค
นอกจากนี้ ยังไม่ชี้ชัดว่าการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคของ พล.อ.ประวิตร จะเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคได้หรือไม่ แต่ในฐานะ ส.ส.รุ่นใหม่ ไม่คิดว่าพรรคจะเดินเข้าสู่ปัญหาความขัดแย้งใดๆ พร้อมมองว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจมีความเห็นแตกต่างกัน และ ความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสียทีเดียว เพราะอาจนำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น
