เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย มาตรา 112 หลังพบมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นว่า มีฝ่ายสืบสวนติดตามรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานโดยตลอดอยู่แล้ว หากความเคลื่อนไหวใดที่เข้าข่ายกระทำความผิด และมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ก็จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่มีความกังวลว่าหลังประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปแล้ว จะมีความเคลื่อนไหวกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น ยืนยันเรื่องมาตรการเฝ้าระวังกลุ่มผู้กระทำความผิด อีกทั้งเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมายมาตรา 112 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงจุดยืนในเรื่องนี้ไปแล้ว
ขณะเดียวกันยอมรับว่ามีความกังวลและเป็นห่วงความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ที่อาจถูกชักจูงไปกระทำผิด โดยบางคนก็เข้าร่วมโดยที่รู้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน หรือถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงอยากให้พิจารณาให้ดี เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มใด ก็มักถูกดำเนินคดีตามหมาย และหลายคดีก็เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลไปแล้ว จึงขอฝากไปยังกลุ่มเยาวชนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ อย่ากระทำการที่ผิดกฎหมาย เพราะอาจจะส่งผลกับอนาคตได้
ส่วนกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีความผิดติดตัวและหลบหนีออกนอกประเทศ เรื่องการติดตามจับกุมเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง แต่ในส่วนของตำรวจจะเฝ้าระวังเรื่องความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหลักพร้อมกับฝากเตือนกลุ่มที่ติดตามโซเชียลมีเดีย ให้ระมัดระวังข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองได้ ย้ำว่าตำรวจไม่อยากดำเนินคดีกับนักเรียน นักศึกษา