ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และพนักงานระดมเงินบริจาครวมกว่า 400,000 บาท อุดหนุนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคลูกค้านาโนของธนาคาร นำสินค้าจัดถุงยังชีพกว่า 2,000 ถุงบริจาค ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะคนตกงานและขาดรายได้ในชุมชนแออัดที่ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือมาก่อนทั่วประเทศ โดยสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมดซื้อมาจากลูกค้าร้านขายของชำของธนาคารที่ขาดรายได้จากการปิดเมืองในช่วงโควิด-19 เพราะธนาคารและพนักงานเล็งเห็นความทุกข์ยากของลูกค้ากลุ่มนี้และต้องการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นในชุมชนให้อยู่รอด ในขณะเดียวกันต้องการบรรเทาความทุกข์ให้ครอบครัวที่เดือดร้อนในชุมชนไปพร้อมกัน จากผลสำรวจของทีมวิจัยพัฒนาธุรกิจไมโครของธนาคารก่อนหน้า ธุรกิจร้านขายของชำหรือร้านโชว์ห่วยถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขาดรายได้มากกว่า 66% การอุดหนุนซื้อสินค้ามาจัดถุงยังชีพถือเป็นการเติมเชื้อเพลิงตั้งต้นให้กับธุรกิจนาโนและไมโครกลับมาดำเนินต่อหลังจากที่ต้องหยุดกิจการไปนาน ช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้า
เศรษฐกิจประเทศไทยต้องหยุดชะงักเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 หลายธุรกิจรวมถึงแรงงานไทยต้องทนทุกข์และเผชิญความยากลำบากขาดรายได้และอาหารจุนเจือครอบครัวอย่างไม่เคยมีมาก่อนเนื่องจากมีการปิดสถานประกอบการ ตลาดสด ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ด้วยปรัชญาทางแบรนด์ “ทุกคนคือคนสำคัญ”ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพนักงานริเริ่มโครงการ “ทุกคนคือคนสำคัญ ทุกคนช่วยกันได้” โดยเป็นกิจกรรมภายในที่พนักงานธนาคารแสดงความเห็นอกเห็นใจร่วมกันสมทบทุนบริจาคเงินส่วนตัวและเป็นจิตอาสา โดยมีธนาคารสนับสนุนสมทบทุนบริจาคให้อีกเท่าตัว
นอกจากนี้ ธนาคารยังทำงานร่วมกับผู้นำชุมชนเพื่อให้แน่ใจว่าถุงยังชีพได้แจกจ่ายไปยังผู้ที่ตกงานและเดือดร้อนจากการขาดรายได้ และที่สำคัญไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรใดๆ เลยมาก่อน
นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผมภูมิใจในพนักงานของเราทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจทั้งสละทรัพย์และเวลาส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาทำให้วัฒนธรรมองค์กรที่เราสร้างร่วมกันเป็นรูปธรรม ตามคำมั่นสัญญา “ใครไม่เห็น เราเห็น” ด้วยการมอบความช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนในชุมชนที่ถูกมองข้ามที่ยังตกหล่น และยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนพิการ หรือคนที่ขาดแคลน กิจกรรมการกุศลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างวงจรความช่วยเหลือให้ครอบคลุม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยผลักดันธุรกิจของลูกค้าให้กลับมายืนได้ แต่ยังต่อยอดความช่วยเหลือให้กับผู้ที่เดือดร้อนที่ยังไม่มีใครเข้าถึง และเพื่อสนับสนุนความตั้งใจของพนักงาน ธนาคารร่วมสมทบทุนบริจาคให้อีกเท่าตัวเพื่อให้การช่วยเหลือนี้ส่งต่อไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”
ยอดบริจาคทั้งสิ้นสามารถนำไปซื้อสินค้าจัดถุงยังชีพได้กว่า 2,000 ถุง แจกจ่ายให้กว่า 2,000 ครอบครัวในชุมชนแออัดใกล้สาขาของธนาคารรวม 10 พื้นที่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, อุดรธานี, ระยอง, กาญจนบุรี เป็นต้น โดยถุงยังชีพประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิเช่น ข้าวสาร, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, น้ำปลา, ขนมขบเคี้ยว และน้ำยาล้างจาน โดยหวังให้ประทังชีวิตไปได้บ้างไม่มากก็น้อยในระยะเวลาสั้นๆ ที่ขาดแคลน
“ก่อนหน้าที่ ธนาคารเองได้มีการมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองชีวิตฟรี 90 วัน ให้กับลูกค้านาโนเครดิตและไมโครไฟแนนซ์ทั่วประเทศ ในกรณีติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 เข้าขั้นโคม่าหรือเสียชีวิตเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมและยังมีผลถึงวันที่ 24 มิถุนายน เรายังมีการโปรโมทร้านค้าให้ลูกค้าฟรีในเพจเฟสบุ๊กของธนาคาร ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราพยายามให้ความช่วยเหลือมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แม้เพียงเล็กน้อย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์และเศรษฐกิจจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววัน” นายรอยกล่าว