หน้าแรกทั่วไทย"ตั้ว ศรัณยู" เสียชีวิตแล้ว จากมะเร็งตับระยะสุดท้าย

“ตั้ว ศรัณยู” เสียชีวิตแล้ว จากมะเร็งตับระยะสุดท้าย

มีรายงานว่า “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” นักแสดงผู้กำกับชื่อดังวัย 59 ปีได้เสียชีวิตลงแล้วจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ที่ รพ.จุฬาฯ ซึ่งทางภรรยาอย่าง “เปิ้ล หัทยา วงศ์กระจ่าง” ก็เพิ่งโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม พร้อมข้อความสุดเศร้า “อยากให้เวลาเดินช้าช้า ขอเวลาสักหน่อย” พร้อมกับภาพวิวจากตึก ภูมิสิริมังคลานุสรณ์ รพ.จุฬา ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงเวลาก่อนที่สามีจะจากโลกนี้ไปไม่นาน ทั้งนี้เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมาทางด้านของ “ตั้วศรัณยู” ได้เกิดล้มในกองถ่ายกระทั่งส่งผลให้กระดูกสันหลังหัก และมีลิ่มเลือดออกมา จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

สำหรับประวัติ ศรัณยู เป็นนักแสดง พิธีกร ผู้กำกับการแสดงละครและภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในวงการบันเทิงของไทย ก่อนจะเข้ามาในวงการบันเทิง ประกอบอาชีพเป็นสถาปนิกมาก่อน แต่เนื่องจากอาชีพสถาปนิกในเวลานั้น ยังไม่เป็นที่นิยมอย่างในปัจจุบัน ซึ่งศรัณยูได้ร่วมกิจการการแสดงโดยแสดงละครของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เมื่อยังเป็นนักศึกษาอยู่แล้ว เมื่อจบออกมามีผลงานชิ้นแรกทางโทรทัศน์ โดยแสดงเป็นตัวประกอบในรายการเพชฌฆาตความเครียด ทางช่อง 9 ในปี พ.ศ. 2527 โดยแสดงร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกัน เช่น ปัญญา นิรันดร์กุล, เกียรติ กิจเจริญ, วัชระ ปานเอี่ยม เป็นต้น ศรัณยู รักอาชีพนักแสดงที่สุดเขามีผลงานทางด้านการแสดงมากกว่า 100 เรื่อง ทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และละครเวที เป็นพระเอกที่ครองความนิยมในประเทศไทยในช่วงยุค 80-90 มีผลงานละครโทรทัศน์โด่งดังมากมาย ได้แก่ เก้าอี้ขาวในห้องแดง (2527) ระนาดเอก (2528) มัสยา (2528) บ้านทรายทอง และ พจมาน สว่างวงศ์ (2530) เกมกามเทพ (2531) เจ้าสาวของอานนท์ (2531) ดอกฟ้าและโดมผู้จองหอง (2532) รัตติกาลยอดรัก (2532) วนาลี (2533) รอยมาร (2533) วนิดา (2534) ไฟโชนแสง (2535) น้ำเซาะทราย (2536) ทวิภพ (2537) มนต์รักลูกทุ่ง (2538) ด้วยแรงอธิษฐาน (2539) และ นายฮ้อยทมิฬ (2544) ซึ่งแทบทุกเรื่องถูกนำมาสร้างใหม่ในภายหลัง ส่วนผลงานละครเวทีที่เป็นที่จดจำมากที่สุด คือ สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ (2530)

นอกจากนั้นแล้ว ศรัณยูยังมีผลงานพิธีกร ผู้กำกับละครโทรทัศน์ และผู้กำกับภาพยนตร์ มากมายหลายเรื่อง อาทิเช่น เป็นผู้กำกับละครโทรทัศน์เรื่อง “เทพนิยายนายเสนาะ” (2541), ละครพีเรียดเรื่อง “น้ำพุ” (2545), ละครสั้นสองตอนจบเรื่อง “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” (2545), ละครเรื่อง “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” (2546), ละครเรื่อง “หลังคาแดง” (2547), ละครเรื่อง “ตราบสิ้นดินฟ้า” (2551) ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่อง “อำมหิตพิศวาส” (2550) และ “คนโขน” (2554) อีกทั้งศรัณยูยังได้นำบทประพันธ์เรื่อง “หลังคาแดง” มาดัดแปลงและนำเสนอในรูปแบบละครเวทีเรื่อง “หลังคาแดง เดอะมิวสิคัล” (2555) อีกด้วย
ปัจจุบัน ศรัณยูเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับการแสดง ผลิตละครโทรทัศน์ ในนาม “สามัญการละคร” มีผลงานการกำกับละครเรื่อง “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” (2556), หัวใจเถื่อน (2557), รอยรักแรงแค้น (2558) และล่าสุดเรื่อง บัลลังก์หงส์ (2559)

ด้านการเมือง ศรัณยู ยังเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 ชุมนุมทางการขณะปราศรัยบนเวทีกับ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่หน้าสยามพาราก้อนเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2549 ในคราวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้าร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 และเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นในปี พ.ศ. 2541 รวมถึงเป็นกรรมการบริหารพรรคในระยะแรกด้วย แต่ในวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2550 ศรัณยูเป็นบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเข้าร่วมชุมนุมตั้งแต่วันแรกที่มาชุมนุม คือ วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และได้ร่วมชุมนุมอยู่บ่อยครั้งและได้ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกับพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เพื่อนนักแสดงที่หน้าสยามพาราก้อนด้วย ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทยขึ้นอีกครั้ง ศรัณยูเป็นบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมในการขับไล่ นายสมัคร สุนทรเวช และคณะรัฐมนตรีทั้งชุดลาออกจากตำแหน่ง และได้ขึ้นเวทีร้องเพลงกับ ไก่ แมลงสาบ และวงซูซูอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งถูกแต่งตั้งให้เป็นแกนนำฯรุ่นที่ 2 พร้อมกับนางมาลีรัตน์ แก้วก่า ในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ได้รับเลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ของทางกลุ่มพันธมิตรฯ นอกจากนี้แล้วหลังจบการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ. 2551 ของทางกลุ่มพันธมิตรฯ ศรัณยูมีความคิดที่จะสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการชุมนุมครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดจะออกฉายในราวกลางปี พ.ศ. 2552 ถึงขนาดมีการคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นนักแสดง โดยเลือกเอาจากบุคคลทั่วไปหรือบุคคลที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมจริง ๆ เป็นนักแสดงนำในเรื่อง แต่แล้วจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2558) ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ยังมิได้มีการสร้างและออกฉายแต่ประการใด

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img