ขณะเดียวกัน ก็มีการเตรียมความพร้อมเพื่อพิจาณายกเลิกหรือต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรืองดใช้มาตรการต่างๆ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่หากประเมินสถานการณ์ในวันนี้ การผ่อนปรนในเฟสที่ 4 ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือในวันที่ 1 ก.ค. นี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะหมดอายุลง และตรงกับวันเปิดภาคเรียน เปิดสนามบิน ซึ่งจะทำให้คนเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น จะต้องนำปัจจัยเหล่านี้ มาพิจารณาประกอบการผ่อนปรนมาตรการ
ส่วนจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าเป็นไปได้ทุกทาง เช่น จะใช้ต่อหรือยกเลิกหรือคงการใช้ พ.ร.ก.ต่อ แต่ลดความเข้มข้นของมาตรการลง โดยอาจจะให้มีการชุมนุมได้แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังประกาศใช้อยู่ เนื่องจากเป็นการทำสิ่งใดได้อย่างทันถ่วงที เนื่องจาก พ.ร.บ.โรคติดต่อ เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อ ซึ่งไม่สามารถบริหารจัดการหรือบูรณาการกำลังตำรวจ ทหาร พลเรือน เข้ามาได้ จึงยังนึกไม่ออกว่าภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การเดินทางข้ามจังหวัดจะทำเช่นไร เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด อย่างไรก็ตามหากเลี่ยงมาใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่สามารถประกาศปิดผับได้จะสั่งปิดได้เป็นร้านไป ซึ่งต่างกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่สามารถสั่งปิดทั้งหมดได้ทันที ส่วนการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศจะต้องมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนหรือไม่ เป็นเหตุเป็นผลกัน แม้การปิดสนามบินจะปิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศก็ตาม โดยไม่ต้องกลัวปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ขอให้ฟังหมอ อย่างไรก็ตามสามารถผ่อนมาตรการที่เข้มงวดได้
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีการพิจาณาสรรหาคณะกรรม ป.ป.ช. ที่กำลังมีปัญหาอยู่ว่า ขณะนี้กำลังหาทางออกกันอยู่ ซึ่งจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา ส่วนผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง สนช. จะถือว่าเป็นข้าราชการหรือไม่นั้นไม่ขอตอบ เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการสรรหาแต่ละชุด ทั้งนี้ไม่มีกฎหมายกลางเพื่อพิจารณาเป็นการมีไว้เทียบยศ
ส่วนกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ขอลี้ภัยในประเทศกัมพูชา ที่ถูกอุ้มหายไป รัฐบาลจะต้องประสานกับทางกัมพูชาหรือไม่นั้น นายวิษณุระบุว่าไม่ทราบ และไม่รู้จักนายวันเฉลิม